จังหวัดแรกของไทย ที่ไม่มีเสาไฟฟ้าและสายฟ้าห้อยระโยงระยาง
ปัญหาเสาไฟฟ้า และสายไฟที่ระโยงระยางบนภาคพื้นดิน ยังคงเป็นที่ถกเถียงและจ่อดำเนินการอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองหลวงของประเทศไทยอย่าง กรุงเทพมหานคร ที่เปรียบเสมือนภาพลักษณ์ ควรค่าแก่การปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งน่าจะต้องเปลี่ยนแปลงเป็นเมืองแรกๆ
แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วประเทศไทยของเรานั้น มี 1 จังหวัดที่เริ่มต้นโครงการนำสายไฟฟ้าและสายเคเบิลลงสู่ใต้ดินแล้วตั้งแต่ปี 2545 นั่นก็คือ จังหวัดตรัง นั่นเอง
สำหรับโครงการปรับภูมิทัศน์เทศบาลนครตรัง ด้วยการนำเสาและสายไฟฟ้าลงดิน เพื่อให้ภูมิทัศน์ของเมือง เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม และไม่ให้กีดขวางสายตา รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ที่มีปัญหา อันมาจากสายไฟและสายเคเบิลรกรุงรัง ซึ่งการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินของจังหวัดตรัง ดำเนินการโดย วิศวกรจากต่างประเทศและวิศวกรของไทยได้ขุดเจาะลงไปใต้ดินลึกประมาณ 4 ถึง 5 เมตร เพื่อนำสายไฟฟ้าและสายเคเบิลลงใต้ดิน ซึ่งภายใต้ดินมีท่อยาง สีดำขนาดใหญ่และอย่างหนา เป็นท่อยางกันน้ำ กันความชื้นและกันต่อแรงกระแทกเป็นอย่างดี
จากข้อมูลที่มีรายงานไว้ล่าสุดเมื่อปี 59 วิศวกรได้นำสายไฟฟ้าและสายเคเบิลบรรจุใส่ลงไปในท่อแล้ว ก็ดำเนินการฝังท่อลงไว้ใต้ดิน ตั้งแต่ ปี 2545 เป็นต้นมา
โครงการแรก จากสี่แยกหอนาฬิกา ลงไปตามถนนพระราม 6 ถึงสี่แยกกันตัง หน้าโรงแรมธรรมรินทร์
โครงการที่สอง สี่แยกกันตัง ไปตามถนนกันตังถึงสี่แยกท่ากลาง
โครงการที่สาม จากสามแยกศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ถนนพัทลุง ไปถึงสี่แยกโกกุน ลงไปตามถนนราชดำเนิน ถึงสี่แยกท่ากลาง
โครงการที่สี่ จากสามแยกหมี ถนนวิเศษกุล ถึงสี่แยก ไต้ต๋ง
ทั้งนี้รายงานระบุว่า ตั้งแต่ ปี 2545 เป็นต้นมา ยังไม่มีรับรายงานจาก ความเสียหายหรือไฟฟ้าขัดข้อง และยังขจัดปัญหาที่มา จากพายุพัด กิ่งไม้หัก หล่นทับสายไฟ หรือแม้กระทั่งกรณีสายไฟได้พันกัน จนนำไปสู่การลัดวงจรก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย
เรียบเรียง มุมข่าว