เป้ ทวีฤทธิ์ กับชีวิตไม่มีงานไม่มีเงิน ขายของเก่าเลี้ยงชีพ
เชื่อว่าใครหลายๆคนคงรู้จักกันดีกับ เป้ ทวีฤทธิ์ จุลละทรัพย์ ดาราหนุ่ม และยังเคยเป็นนักจัดรายการวิทยุในอดีต เป็นทายาทของนักแสดงดังในอดีต เนรัญชลา เถลิงศักดิ์ และยังเป็นหลานของ พลอากาศเอก ทวี จุลละทรัพย์ อีกด้วย
ที่ก่อนหน้านี้ เป้ ทวีฤทธิ์ ได้ออกมาเปิดใจว่ามีช่วงจังหวะชีวิตที่เจ้าตัวไม่มีงานถึงขั้นขายสมบัติเก่าประทังชีวิต พร้อมควงภรรยาตาน้ำข้าวเปิดใจชีวิตรัก อยู่ในวงการมา9 ปีแล้วครับ ถ้าเริ่มจากเป็นดีเจ 9 ปีที่ผ่านมาก็เป็นดีเจก่อน แต่ก่อนหน้านั้นผมก็มีสอนกีต้าร์ สอนดนตรี สอนภาษา แล้วก็มาเป็นดีเจ ถ่ายโฆษณา หนัง ละคร ซีรีส์ ถามทำไมไม่ดังไม่แปลกครับ คือเป้ไม่เคยคิดอยากจะดัง มันเป็นความคิดที่แบบไม่ได้ทำเพราะอยากดัง ทำไปเพราะสนุก แล้วมันเป็นเหมือนเราได้เป็นตัวแทนของคนดู แล้วเราแสดงไปเพื่อเอนเตอร์เทนคน ไม่ได้คิดจะให้ดัง มันก็เป็นอย่างนี้ไง
ช่วงที่ไม่มีงานมันเหมือนกับว่าผมมีโปรเจ็กต์พีเรียดเรื่องหนึ่ง ทำไปสองปีกว่า มันเป็นโปรเจ็กต์ที่ว่ารับงานอื่นไม่ได้ ผมต้องทุ่มเต็มตัว แล้วโปรเจ็กต์มันหยุดกลางคัน 2 ปีครึ่งผมใช้เงินเก็บ มีงานเล็กๆ น้อยๆ เราก็ต้องรีบแอบทำ เพราะว่าอีเว้นท์อะไรเราก็รับไม่ได้ ก็มีงานสอนเล็กๆ น้อยๆ เราก็ทำ ตอนนั้นผมบอกว่า 40 บาท แต่จริงๆ คือ 19 บาท ตอนนั้นก็ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือใคร
พอถามต่อว่าแม้กระทั่งการไปเป็นเด็กเสิร์ฟ เป้ ทวีฤทธิ์ กล่าวว่า ทำ ตอนนั้นเป้ก็ทำร้านอาหารด้วยต้องเสิร์ฟอยู่แล้ว แต่จริงๆ สมัยเป้เรียน เป้ก็เสิร์ฟ มันก็เลยกลายเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นต้องมาทำบาร์ ซึ่งเราไม่เคยทำบาร์เราก็เลยแบบไม่เป็นไร ยูหน้าตาดี ยูก็อยู่ตรงบาร์ไป เราก็แบบโอเคๆ แล้วก็ได้เงินมาเราก็โอเค
อย่างไรก็ตามพอถามต่อว่าไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ 6 ถึง 7 ขวบ นามสกุลดัง ทำไมถึงลำบาก มีด้วยเหรอคนรวยที่ตกอับ เป้ ทวีฤทธิ์ กล่าวว่า มีครับ จริงๆ มันเป็นช่วงที่ผมอยู่ที่อังกฤษ แล้วมีช่วงคุณพ่อหายไป ตอนนั้นผม 15 ปี ถ้าเทียบก็น่าจะเป็น มัธยม 6 ทีนี้คุณครูบอกว่าผมต้องไปแล้ว เพราะทางคุณพ่อไม่ได้จ่ายค่าเทอม ครูบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวอยู่กับที่บ้านครูก่อนนะ หลังจากนั้นผมไปเจอคนไทยที่มีน้ำใจ มีความเมตตา ผมก็เลยได้ทำร้านอาหาร ก็ล้างจานก่อน แล้วก็เสิร์ฟ แล้วผมก็มีเงินที่คุณแม่ส่งมาให้ ผมก็ไปลงเรียนจบแล้วก็กลับมาเมืองไทย
ภาพจาก paedaweerit
เรียบเรียง มุมข่าว