คู่รักจบแค่ชั้นประถม แต่มีรายได้เดือนละ 16 ล้าน
ในช่วงนี้เรามักจะเห็นข่าวของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่เริ่มจะออกจากงานประจำเพื่อที่จะมาหาอาชีพอื่นทำแทน อย่างเช่นการเป็นเกษตรกร ปลูกผักหรืออื่นๆ ซึ่งหลังจากคิดว่าต้องลงทุนเท่าไหร่คำนวนเงินทุนเสร็จแล้วที่เหลือก็คือกำไรนั่นเอง เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ทางทีมงานมุมข่าวจะเอามานำเสนอในวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวเก่าของปีพุทธศักราช 2559 แม้เรื่องราวจะผ่านมานานแต่ก็แบบอย่างที่ดีของคนกำลังท้อได้ดีอีกด้วย
โดยเรื่องนี้เป็นของ คุณสมเกียรติ ลำพันแดง และ คุณสุนันทร์ สตะจริง คู่สามีภรรยา เจ้าของสวน สมเกียรติ ผักอร่อย ซึ่งทั้งสองเล่าให้ฟังว่า พวกเขาไม่ได้เรียนจบสูงมากนัก เรียนจบแค่เพียงชั้นประถมศึกษา จึงยึดอาชีพแม่ค้าขายผักในตลาดสด เมื่อประมาณ 6ถึง7ปีก่อน และได้รับรู้ปัญหาอย่างหนึ่งของการขายผักคือ ตลาดผักไม่สม่ำเสมอ ไม่สม่ำเสมอในที่นี้หมายถึง ผักบางชนิดก็หายากในบางฤดู บางชนิดก็เยอะเกิน และบางชนิดก็หาไม่ได้ ขาดตลาดไปเลยก็มี
ยกตัวอย่าง ผักบุ้ง บางฤดูหายากในตลาด ลูกค้ามีความต้องการ แต่แม่ค้าไม่มีขาย หรือบางทีก็มีเยอะเกินไป ซึ่งด้วยความเป็นแม่ค้าก็สงสัยว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น เลยคิดหาวิธีการว่าจะทำอย่างไร ถึงจะมีผักขายได้ตลอด มีมากมีน้อย ก็ควรน่าจะต้องมีขาย
คิดแบบนั้นเลยเริ่มมองหาคู่ค้า เจ้าของสวนผัก เจ้าโน้นเจ้านี้ มารวบรวมส่งผักขายให้กัน โดยพอเริ่มรวบรวมผัก ก็ได้หน่วยงานของเกษตรจังหวัดสระบุรี เข้ามาให้การช่วยเหลือ และจากนั้นจึงได้รับคำแนะนำให้มีระบบมาตรฐานของห้าง จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำมาตรฐาน GMP
โดยครอบคลุม 6 ประการ คือ 1 สุขลักษณะของสถานที่ตั้งและอาคารผลิต 2 เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ ที่ใช้ในการผลิต 3 การควบคุมกระบวนการผลิต 4 การสุขาภิบาล 5 การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด และ 6 บุคลากร
พัฒนามาเรื่อยๆ จนได้รับมาตรฐาน และขยายกำลังการผลิต และการรวบรวมไปเรื่อยๆ จนสามารถกลายเป็นผู้รวบรวมผักขายได้ ส่งขายไปยังห้างแม็คโคร 4 สาขา ในพื้นที่เขตจังหวัดสระบุรี จากยอดส่งผัก 200 ถึง 300 กิโลกรัม ปัจจุบันสามารถส่งผักจำหน่ายได้ถึง 5ถึง6 ตัน ต่อวัน
ปัจจุบัน สมเกียรติ ผักอร่อย ในฐานะผู้รวบรวมผัก สามารถพัฒนาไปถึงขั้นของระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อสแกนว่าผักถุงนี้มาจากฟาร์มไหน ใครเป็นผู้ปลูก ได้มาตรฐานอะไรบ้าง ผ่านการรับรองจากกระทรวงใด โรงคัดบรรจุสะอาดปลอดภัยหรือไม่ แค่ใช้มือถือสแกนหน้าถุง รายละเอียดก็จะขึ้นข้อมูลให้ผู้บริโภคทราบได้
ด้านยอดขาย คุณสุนันทร์ บอกว่า ยอดขายในฐานะของผู้รวบรวมผัก ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านบาท ต่อเดือน แต่ถ้าในฐานะของเจ้าของฟาร์มผู้ปลูกผักเองนั้น แยกส่วนกัน ส่วนใหญ่ผักที่ปลูกที่นี่ มักขายที่หน้าสวนไปเลย ราคาค่อนข้างสูงกว่าผักที่อื่นมาก เพราะเป็นผักออร์แกนิก รายรับอาจไม่มากเท่าฐานะผู้รวบรวมผัก แต่ก็ถือว่าดีมาก
เรียบเรียง มุมข่าว