เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทางเรือนจำ มีการปล่อยตัวนายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ 2 พี่น้องตระกูลนักการเมืองคนดังกล่าว หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 2 ปี และตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี มาตั้งแต่วันที่ 6 กค.65 โดยนายเทพไทและนายมาโนช ถูกจองจำคุกเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชมาแล้ว 16 เดือน ครบเกณฑ์ถูกจำคุก 2 ใน 3 ทางกรมราชทัณฑ์ จึงอนุญาตให้พักโทษได้โดยต้องสวมกำไลEMเป็นเวลา 8 เดือน

โดยก่อนเรือนจำปล่อยตัว มีการเบิกตัวนายเทพไท ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีเขียว ส่วนนายมาโนช แต่งกายสวมชุดเหมือนกัน แต่ที่น่าสังเกตทั้งสอง มีร่างกายค่อยข้างซูบผอม แต่สีหน้าทั้งสองยิ้มแย้ม

จากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำ ส่งตัวทั้งสองไปยังสำนักงานควบคุมประพฤติจังหวัดนครศรีธรรมราชตามขั้นตอน และติดกำไร EM ก่อนจะมีการปล่อยตัวทั้งสองออกจากเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนาทีที่นายเทพไท และนายมาโนช ออกจากประตูเรือนจำ มีญาติพี่น้อง แฟนคลับจำนวนมากเข้าโผกอดด้วยความดีใจ

หลังจากนายเทพไท และนายมาโนช ออกจากเรือนจำ มีการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หน้าเรือนจำ เพื่อความสิริมงคล ก่อนที่ทั้งสองจะออกวิ่งจากเรือนจำเพื่อแก้บน โดยเส้นทางวิ่งแก้บนออกจากเรือนจำเลี้ยวซ้ายขึ้นถนนสายร่อนพิบูลย์ - นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าบ้านพัก ใน พื้นที่ อ.พระพรหม ใกล้สี่แยกหัวถนน ศาลามีชัย รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

เมื่อนายเทพไท และนายมาโนช รวมทั้งแฟนคลับวิ่งถึงบ้านพักในพื้นที่ อ.พระพรหม มีบรรดาแม่ยก แฟนคลับจำนวนมากร่วมต้อนรับให้ดอกไม้ สวมกอดนายเทพไทและนายมาโนช กันอย่างคึกคัก ก่อนจะร่วมรับประทานอาหาร

นายเทพไทและนายมาโนช กล่าวขอบคุณ กรมราชทัณฑ์ที่ให้พักโทษในวันนี้ และขอบคุณญาติพี่น้องทุกคนที่เป็นห่วงตนมาตลอด ส่วนทิศทางทางการเมืองจะมีการตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง

สำหรับคดีประวัติศาสตร์คดีนี้ เมื่อวันที่ 6กค.2565 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 174/2562 หมายเลขแดงที่ 485/2563 มีนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยที่ 1

และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พี่ชายนายมาโนช จำเลยที่ 2 คดีกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาจำคุกจำเลยที่1ละที่ 2เป็นเวลา2ปีละตัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 10 ปี ก่อนถูกคุมตัวไปจำคุกที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชตลอดมานั้น

ข่าวโดย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews