ปิดฉากลงไปเปป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขัน เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่หางโจว ประเทศจีน ส่วนมีพิธีปิดอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้น เวลา 18.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม (วันนี้) ที่ หางโจว โอลิมปิก สปอร์ตส์ เซนเตอร์ สเตเดียม

โดยวันสุดท้ายนี้ ทัพนักกีฬาไทย เก็บเพิ่มอีก 2 เหรียญทองจาก วีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม. และเทเบิลเทนนิส คู่ผสม ปิดฉากผลงานที่ 27 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน 55 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 7 ของตาราง

ส่วนจีน เจ้าภาพ ครองเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน โดยวันสุดท้ายโกยไปอีก 18 เหรียญทอง ทะลุไปถึง 217 เหรียญทอง 167 เหรียญเงิน และ 140 เหรียญทองแดง

อันดับ 2 อิหร่าน 44 ทอง 46 เงิน 41 ทองแดง อันดับ 3 ญี่ปุ่น 42 ทอง 49 เงิน 59 ทองแดง อันดับ 4 เกาหลีใต้ 30 ทอง 33 เงิน 40 ทองแดง อันดับ 5 อินเดีย 29 ทอง 31 เงิน 51 ทองแดง

ส่วนอันดับ 6 เป็นอินโดนีเซีย เจ้าอาเซียน ที่แซงไทยขึ้นมาวันสุดท้าย โดยมี 29 ทอง 30 เงิน 36 ทองแดง

ด้าน ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งนี้ ไทยเราได้เหรียญทองมากกว่าครั้งก่อน ปี 2018 ที่ทำได้ 23 เหรียญทอง ถือเป็นอะไรที่ดีมาก แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพของทีมพาราไทย พัฒนาขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว ต้องขอบคุณนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ติดตามทุกคน ที่ทำผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในครั้งนี้ ตนมีความสุขที่ได้มีโอกาสมาดู และเยี่ยมนักกีฬา แม้บางชนิดกีฬาอาจไม่ได้มีโอกาสไปเชียร์แต่ก็ส่งกำลังใจให้ตลอดเวลา

ต้องยอมรับว่าบางกีฬา หรือบางเหรียญที่เราอาจพลาดไป ก็เป็นสิ่งที่เราต้องกลับไปดู และศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายอีเวนต์ที่เราเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญรางวัลมาเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าเราได้พัฒนาขึ้นมามาก และเดินมาถูกทาง