จากกรณีที่ น้องแบงค์ เด็กชายวัย 8 ขวบ ถูกชายเร่ร่อนพาหายจากโรงเจที่ปากน้ำ สมุทรปราการ หลังยายพาขึ้นรถเมล์จากคลองเตยไปรับแจกทาน ผ่านไป 3 วัน ล่าสุดมีคนเห็นเด็กยังอยู่กับชายแปลกหน้า พาขึ้นรถประจำทางไปทางแยกบางนา

วันนี้ 23 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปบริเวณโรงเจท่งเสียงปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อหาข้อมูลจากพยานแวดล้อมและหาเบาะแสจากชาวบ้าน

นายสุทิน บุญอยู่ อายุ 57 ปี คณะกรรมการโรงเจท่งเสียงปากน้ำให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากการดูภาพวงจรปิดทราบว่า ชายคนดังกล่าว คือนายแก้ว เป็น ชายเร่ร่อน ปกติจะพักอาศัยอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จะเห็นเข้ามาที่โรงเจและมาช่วยกวาดทำความสะอาดโรงเจบ้าง แต่ไม่มีพิษภัย นิสัยส่วนตัวของนายแก้วทราบว่า เมื่อนายแก้วเห็นเด็กชายจะชอบเข้าไปพูดคุยด้วย ก่อนที่จะพาไปนู้นนี่เหมือนลูกตัวเอง ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กผู้ชาย กระทั่งปี 59 นายแก้ว ถูกจับกุมในข้อหาลักพาตัวและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 ปี ส่วนสาเหตุพาเด็กไปเพื่อการใดหรือจะพาไปทำอนาจารหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ

ล่าสุดเมื่อ เวลา17.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาพบตัวน้องแบงค์แล้ว ที่งานประเพณีรับบัวภายในวัดบางพลีใหญ่ ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพลเมืองดีที่ทราบข่าวและจดจำใบหน้าของน้องแบงค์ได้จากการลงประกาศคนหายของมูลนิธิกระจกเงา จึงทำการเข้าช่วยเหลือเด็กไว้เบื้องต้น ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่เข้ารับตัวเด็ก พร้อมควบคุมตัวชายเร่ร่อนที่ลักพาตัวน้องแบงค์เอาไว้ได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวชายเร่ร่อนคนดังกล่าวพร้อมกับน้องแบงค์ไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับชายเร่ร่อนคนดังกล่าว

ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยกับทีมข่าวว่าในส่วนของน้องแบงค์ ขณะนี้บ้านพักเด็กและสตรีสมุทรปราการมารับตัวน้องไปดูแลเบื้องต้นก่อน ส่วนผู้ต้องหาที่ลักพาตัวเด็กมานั้นคือนายแก้ว วิชัย ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ปรากฎในข้อมูทะเบียนราษฎร์ แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษในคดีลักพาเด็ก 9 ขวบ มาขอทานในพื้นที่ของสภ.สำโรงเหนือ เมื่อปี 2559 ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก