ขึ้นเงินแล้ว 6 ล้าน สาวเปิดใจทั้งน้ำตา ย้อนเวลาได้ก็ไม่อยากถูกรางวัลที่ 1
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จากกรณีที่นางสาวพรธิดา วัย 23 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมพี่สาวและญาติ เข้าแจ้งความกับ ร้อยตำรวจเอก วีระพล รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แจ้งว่า ถูก นายวิจักร วัย 34 ปี ซึ่งเป็นสามี นรางวัลที่ 1 ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 หมายเลข 017223 ไปโดยไม่ยอมแบ่งเงินรางวัลตามที่ตกลงกันไว้
ภาพจาก อินเทอร์เน็ต
โดย นางสาวพรธิดา แฟนสาวของนายวิจักร เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ให้ทางผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายตกลงพูดคุยกันแล้ว ก็ได้ข้อสรุปว่า จะแบ่งเงินรางวัลกันคนละครึ่งหรือคนละสามล้านบาทตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตกันเอง ส่วนตนจะนำเงินที่ได้มาดูแลครอบครัวให้อยู่สบายต่อไป
นางสาวพรธิดา กล่าวว่า เหมือนเป็นโชคบนทุกขลาภ เพราะได้เงินก้อนโตมาแต่ก็ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่ม เสียดายเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันมา ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากกันมาก็ดูแลช่วยเหลือกันมาตลอด ส่วนตนเชื่อว่าสาเหตุของปัญหาเกิดจากที่แฟนหนุ่มเป็นคนใจร้อน เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวรับภาระไว้เยอะ ก็เลยคาดหวังอะไรไว้เยอะเกินไปจนเกิดปัญหาขึ้น เสียดายเวลาและความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่อยากถูกรางวัลเลย เขาเป็นคนดี ข้าวปลาไม่เคยขาด ตามใจเราทุกอย่าง วันนั้นที่ถูกพอตรวจหวยเสร็จ ก็ถามเลยว่า จะทิ้งหนูหรือเปล่า เหมือนที่เราดูข่าวมา เขาก็บอกว่า ไม่ทิ้งหรอกจะทิ้งไปไหน วันนี้ไม่มีความสุขเลย แต่ก่อนเขาไม่มีเราก็ช่วยเขาบ้าง เราไม่มีเขาก็ช่วยเราบ้าง ถ้าเจอแบบนี้ก็ไม่อยากถูกเลย นางสาวพรธิดา กล่าว
นางสาวพรธิดา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะถูกรางวัลที่หนึ่ง ก็ยังวางแผนการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร อย่างมากก็แค่มีปากเสียงกันเท่านั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เราทั้งสองฝ่ายได้รับบทเรียนกัน จากนี้ไปหลังเคลียร์เรื่องเงินรางวัลเสร็จ ตนก็จะกลับไปทำงานประจำตามเดิม เพราะเงินรางวัลที่ได้มาคงไม่ยั่งยืนเสมอไป ใช้ไปก็มีวันหมดเช่นกันถ้าหากไม่รู้จักหาหรือทำงาน
จากนี้จะไปคุยเรื่องแบ่งเช็คกัน ส่วนเรื่องอื่นถ้าจะคุยก็คุย ถ้าไม่ก็ต่างคนต่างอยู่ หนูอยู่ของหนูได้ ญาติเราก็เยอะ แต่บอกไปแล้วว่า ลอตเตอรี่ไม่ใช่ของเราคนเดียว ไม่ใช่ว่าถูกแล้วจะมาหากัน ต้องหารกันก่อน ส่วนเรื่องน้า พี่สาว เราอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ก็แค่คุยกันปรึกษา เพราะเราเป็นเด็ก อย่างเรื่องบ้านถ้าจะซื้อเป็นชื่อเราสองคน เราก็ดีใจว่าจะมีอะไรเป็นของตัวเอง
แต่แฟนก็บอกว่า จะเป็นชื่อแม่ เราก็คิดว่าจะโอเคมั้ย แล้วจะไม่ให้เราคิดบ้างเหรอ ว่าวันข้างหน้าเราจะมีหลักประกันอะไรในชีวิตบ้าง ตอนที่เขาบอกว่าจะให้เรา 2 ล้าน ก็คิดว่าจะเก็บไว้ 1 ล้าน จะทำบ้านให้พ่อแม่อีกล้านก็คิดอยู่ว่าจะพอมั้ย แต่เขาก็บอกว่าจะเอาไปซื้อบ้านจะไม่ทิ้งเรา ก็ดีใจแต่ก็มาผิดใจกัน ยอมรับว่าเป็นเราที่ไม่หนักแน่น เพราะเครียดหลายอย่าง ทางนี้ก็ครอบครัวเรา ทางนั้นก็ครอบครัวเขา กลัวคนว่าไม่รักแม่หรือ ซึ่งก็ทำทุกอย่างให้เต็มที่ นางสาวพรธิดา เปิดเผยพร้อมน้ำตา
พรธิดา กล่าวว่า อยากให้เข้าใจที่ไปแจ้งความเพราะตกใจ แค่อยากรักษาสิทธิ ไม่ได้จะทำร้ายเขา เคยคุยกันมาก่อนว่า ถ้าถูกรางวัลเราสองคนก็อยากทำให้พ่อแม่สบายที่สุด วันนี้ก็คงต้องไปทำให้ครอบครัว