ยังคงเป็นเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจจำนวนมาก สำหรับกรณี สาวรายหนึ่งชื่อ พรธิดา อายุ 23 ปี พร้อมพี่สาวและญาติ เข้าแจ้งความ ว่า สามี คือ นายวิจักร อายุ 34 ปี ถูกรางวัลที่ 1 จึงไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สถานีตำรวจภูธร พระประแดง พร้อมกับเซ็นลายมือชื่อของตนและแฟนไว้ที่ด้านหลังของสลากที่ถูกรางวัล แต่ต่อมาสามีบอกว่าจะแบ่งให้เพียง 2 ล้าน และมีปากเสียงกัน ก่อนที่สามีจะบอกว่า อยากได้ก็ไปฟ้องเอา จึงเข้ามาแจ้งความตามที่ทีมงานมุมข่าวได้เสนอไปก่อนหน้านั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า นายวิจักร ได้เดินทางไปยังกองสลาก สนามบินน้ำ พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้จะให้แฟนเป็นคนจัดการ เพราะสลากอยู่ที่เขา แล้วให้เป็นคนโอนมาอีกที ตนไม่ได้หนีไปไหน เราคุยกันตลอดเวลา แค่อารมณ์ชั่ววูบ ผ่านไปแค่ 4ถึง5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทะเลาะกันแล้วสุดท้ายก็กลับมาบ้าน ไม่ได้มีทำอะไรกัน แค่เตะขวดน้ำด้วยความโมโห

ตอนแรกตั้งใจจะให้เขา 2 ล้าน เพื่อไปจัดการเรื่องสร้างบ้านของแม่เขา ส่วนอีก 4 ล้าน จะเอาไปซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องญาติ พี่น้องค่อยว่ากันอีกที ตอนแรกที่ตกลงกันเป็นแบบนั้น แต่อยู่ๆ น้องไปคุยกับญาติแล้วก็กลับมาบอกว่า จะขอ 3 ล้าน ผมเลยโมโหว่าที่เราตกลงกันไม่ใช่แบบนั้น ทำไมต้องให้คนอื่นมาบงการแบบนี้ ทุกอย่างมันสามารถคุยกันได้ เขาอาจจะไม่พอใจคิดว่าเราเอาเปรียบเขา แต่เราไม่ได้เอาเปรียบ เพราะคุยกันไว้แล้วว่าจะทำยังไงกับเงิน นายวิจักร กล่าว

นายวิจักร กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วไม่คิดว่าจะมีปัญหา และไม่คิดว่าภรรยาจะไปแจ้งความ โดยก่อนหน้าญาติพี่น้องไม่เคยมายุ่งกับเรา ไม่คิดจะโทรหา ตอนลำบากไม่มีใครคิดจะสนใจ เลยพูดไปว่า ทำไมต้องมายุ่งกับเงินของเราจังเลย ตอนไปซื้อยอมรับว่าเราไปซื้อด้วยกัน น้องเป็นคนฝัน ก็ไปเลือกด้วยกัน ตั้งใจจะซื้อ 23 32 อยู่แล้ว ตอนนั้นยังพูดเล่นๆ ว่า ได้แล้วมาแบ่งกัน ก็ไม่คิดว่า จะเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ ก็คิดว่า เรามาแบ่งกันเพื่อให้ปัญหาจบ ตอนนี้ ตั้งใจจะเอาไปซื้อบ้าน เพราะความฝัน คือ การมีบ้านเท่านั้นเอง

ตอนนี้ไม่ขอบอกอะไรกับความสัมพันธ์ ว่า จะอยู่ด้วยกันต่อไปหรือไม่ ผมแค่แปลกใจก่อนหน้าไม่มีใครสนใจเรา เลยทำให้ผมโมโหว่า คุณมีสิทธิ์อะไรมาจัดแจงทุกอย่างกับเงินของเรา ที่โกรธผมโกรธญาติเขา มาพูดจนแฟนผมเปลี่ยนไปทุกอย่าง ตอนแรกผมเซ็นชื่อเป็นเจ้าของไว้คนเดียว แต่น้องมาเซ็นตอนไหนก็ไม่รู้ คิดแค่เขาคงไม่ไว้ใจเราเหรอ เพราะสลากก็อยู่กับเขา แต่พอคุยกับญาติก็เปลี่ยนไปแบบนี้ ตอนนี้ก็ตัดสินใจแบ่งเงินกัน เพื่อตัดปัญหาเพราะเหมือนผมโดนอยู่คนเดียวเลย ตอนแรกที่ตกลงกันเป็นแบบนั้น นายวิจักร กล่าว