ลูกจ้างกัมพูชา ฝึกตำส้มตำที่ไทย 4 ปี ก่อนเปิดร้านที่พนมเปญจนขายดิบขายดี

ลูกจ้างกัมพูชา ฝึกตำส้มตำที่ไทย 4 ปี ก่อนเปิดร้านที่พนมเปญจนขายดิบขายดี

ในบ้านเราอาหารยอดฮิตของคนไทยก็คงหนีไม่พ้นส้มตำ เรียกได้ว่ากินได้ทุกเพส ทุกวัย ทุกอาชีพกันเลยทีเดียว ในวันนี้ทางทีมมุมข่าวจึงได้นำเรื่องราวของหนุ่มกัมพูชาคนหนึ่ง ซึ่งเคยเดินทางไปหางานในไทย เกิดความคิดที่จะเปิดร้านส้มตำสูตรไทยขึ้นมา จนกลายเป็นที่สนใจของสื่อท้องถิ่นเมื่อไม่นานมานี้

Phnom Penh Post รายงานว่าที่กรุงพนมเปญ มีร้ายนส้มตำและอาหารไทยร้านหนึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เจ้าของร้านชื่อ ตง เฮง เป็นชายหนุ่มจากจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเคยตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน และออกจากบ้านหลังจากแม่ของเขาไม่อยู่แล้ว จากนั้นเดินทางไปทำงานที่ร้านอาหารในประเทศไทย

ในช่วงสี่ปีที่เขาพักอยู่ในกรุงเทพ ตง เฮง ได้พยายามเรียนรู้วิธีการเตรียมอาหารไทย โดยการสังเกตพ่อครัวที่ทำงานในร้านอาหาร พร้อมๆ กับตั้งความหวังเอาไว้ว่าสักวันเขาจะเก็บเงินได้มากพอที่จะเปิดร้านอาหารไทยในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง จนกระทั่งเมื่อปี 2018 เขาก็ทำความฝันให้เป็นจริงในที่สุด

ตง เฮง สังเกตเห็นว่าอาหารไทยได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวจากกัมพูชา โดยเฉพาะส้มตำ เขาจึงเปิดร้านอาหารไทยที่เน้นขายส้มตำโดยเฉพาะ ซึ่งส้มตำ หรือ บกละฮง เป็นหนึ่งในอาหารของชาวกัมพูชาเช่นกัน แต่รสชาติไม่เข้มข้นเท่ากับของไทย

เขาให้สัมภาษณ์กับ Phnom Penh Post ว่าเขาสังเกตเห็นเห็นคนกัมพูชาจำนวนมากชอบรับประทานส้มตำ แต่ไม่เคยเห็นร้านอาหารในพนมเปญร้านไหนที่มีส้มตำรสชาติแบบไทยแท้นอกจากจะมีส้มตำแบบไทยแล้ว ร้าน Tong Tong Bok Etlahae ของเขายังเสิร์ฟอาหารประเภทตำสูตรต่างๆ แบบที่คนไทยนิยมกัน เช่น ตำหมี่

ส้มตำ หรือ บกละฮง ในภาษาเขมร ซึ่งแปลว่าตำมะละกอ เป็นอาหารที่นิยมรับประทานกันในหมู่ชาวกัมพูชา คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากส้มตำของไทย แต่มีรสชาติอ่อนเผ็ดและค่อนข้างหวาน นอกจากนี้ยังนิยมตำโดยไม่ใส่วัตถุดิบที่หลากหลายเหมือนในประเทศไทย นิยมรับประทานโดยใช้ตะเกียบคีบ

ในเวลานี้ส้มตำที่ทำแบบไทย หรือเรียกว่า บกละฮุงแบบไท กำลังเป็นที่แพร่หลาย โดยจะมีการตำด้วยวัตถุที่หลากหลายขึ้นแบบเดียวกับที่นิยมในเมืองไทย เช่น ตำปูเค็ม ตำปูม้า ตำมั่ว และรับประทานกับไก่ย่าง ที่สำคัญก็คือมีการริเริ่มนำน้ำปลาร้าจากเมืองไทยไปใช้ปรุงด้วย จึงทำให้บกละฮุง แซ่บ แบบไทย

ที่มา Phnom Penh Post

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ