อสังหา ชง เศรษฐา ดึงต่างชาติซื้อ คอนโด แลกมิดเทอมวีซ่า กระตุ้นกำลังซื้อ
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม สื่อดัง เผยว่า นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า เป็นการดีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้นายกรัฐมนตรีมาจากนักธุรกิจ เชื่อว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความชำนาญด้านเศรษฐกิจ อย่างน้อยนโยบายดีจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใช้งบฯ 5 แสนล้านบาทนั้น น่าจะกระตุ้นกำลังซื้อได้ 4-5 รอบ แต่เป็นมาตรการระยะสั้น สุดท้ายรัฐบาลมีมาตรการระยะกลางและระยะยาวต่อ เช่น นโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ ผลักดันไทยเป็นฮับรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น
นายพีระพงศ์กล่าว่า หลังรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ทาง 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย จะเข้าพบรัฐบาลขอให้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ โดยสมาคมอาคารชุดไทย มีข้อเสนอ 2 เรื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อตลาดคอนโดมิเนียม
ประกอบด้วย 1.ขอให้ทบทวนเรื่องมาตรการLTV ซึ่งปัจจุบันดีมานด์ฟื้นตัวแต่กำลังซื้อยังเปราะบาง มีกำลังผ่อน แต่ยังไม่มีเงินก้อนดาวน์ 20-30% เพื่อซื้อบ้านหลังที่ 2และหลังที่3 ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เนื่องปัจจุบันตลาดเก็งกำไรไม่มีแล้ว แต่คนอยากซื้อคอนโดฯเป็นหลังที่2 ใกล้ที่ทำงานหรือโรงเรียนลูก ซึ่งเป็นดีมานด์จริง โดยขอให้ธปท.กลับมาผ่อนผันเกณฑ์ตรงนี้อีก 2 ปี จนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น
2.ผ่อนเกณฑ์วีซ่าสำหรับต่างชาติที่ซื้อคอนโดฯ จากเดิมเป็นการอนุมัติให้วีซ่าระยะยาวกลุ่มเศรษฐีผู้มีรายได้สูงและกลุ่มผู้มีศักยภาพสูงที่เข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยได้ 10 ปี แต่คุณสมบัติสูง ขอให้ปรับลดลงมาเป็นมิดเทอมวีซ่า 3-5 ปี ให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในไทย
นายพีระพงศ์กล่าวว่า โดยข้อเสนอคือ ซื้อคอนโดฯราคา 3 ล้านบาท อยู่ได้ 3 ปี ซื้อคอนโดฯ 5 ล้านบาท อยู่ได้ 5 ปี ทำให้ต่างชาติที่เคยได้วีซ่าท่องเที่ยว เมื่ออยู่อาศัยได้นานขึ้น จะสนใจซื้ออสังหาฯในไทย ซึ่งราคา 3-5 ล้านบาท เป็นตลาดที่ซื้อง่ายขายคล่อง และสามารถสร้างจีดีพีใหม่ให้กับประเทศได้ เพราะจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศมหาศาล ทั้งเพิ่มยอดขายคอนโดฯได้เป็น 1 แสนล้านบาท จาก 4-5 แสนล้านบาทต่อปี เป็น 6 แสนล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 4-5 เท่า และเชื่อว่านายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี เคยเป็นนักพัฒนาอสังหาฯมาก่อน จะคิดเหมือนกัน