อาลัย พล.ต.ท.สรรเพรช  ศิษย์ขุนพันธ์ มือปราบชุมโจรเมืองคอนฯ จากไปอย่างสงบแล้ว

อาลัย พล.ต.ท.สรรเพรช ศิษย์ขุนพันธ์ มือปราบชุมโจรเมืองคอนฯ จากไปอย่างสงบแล้ว

จากกรณีที่มีรายงานว่า พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ได้จากไปอย่างสงบ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เฉลียว คงตุก ได้ระบุว่า พล.ต.ท.สรรเพรช ธรรมาธิกุล ได้คืนร่างกลับสู่ธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้ว ถ้ากล่าวถึง พล.ต.ท.สรรเพรช ก็มีสองบริบท บริบทแรกคือ อาชีพตำรวจมือปราบภูธร อีกบริบท คือ ผู้สืบทอดวิชาอาคมจอมขมังเวทย์ จากขุนพันธรักษ์ราชเดช

จะขอกล่าวเฉพาะในวิชาชีพตำรวจ ผ่านการคัดลอก โดยผู้เขียนบรรยายว่า บรรดาทำเนียบมือปราบภูธรคงไม่มีใครปฏิเสธชื่อชั้น พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล เจ้าของตำนาน จังโก้ เมืองไทย ที่มีผลงานปราบปรามโจรผู้ร้ายตามแบบฉบับพระเอกนักบู๊ล้างผลาญติดอันดับนายตำรวจมือดีคนหนึ่งของกรมตำรวจ

มือปราบติดหนวดผู้นี้เกิดที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ไปโตที่นครศรีธรรมราช จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนเทศบาลศรีทวี และมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนมุ่งเรียนคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกับนายสัก กอแสงเรือง แถมยังเป็นรุ่นน้องนายชวน หลีกภัย อดีตผู้นำประเทศเพียงปีเดียว

เบนเข็มเข้าสอบเป็นนายร้อยตำรวจอบรม เริ่มต้นฝึกงานที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ไปรับตำแหน่งครั้งแรกเป็นรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ปี 2511 กรมตำรวจส่งเข้าฝึกใน กองพลเสือดำ หรือค่ายพลร่มนเรศวร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสร็จสรรพย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวดตระเวนชายแดนเขต 19 จังหวัดยะลา ขึ้นเป็นรองผู้บังคับหมวด สถานีตำรวจภูธรอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ใช้ยุทธวิธีปราบปรามโจรแบ่งแยกดินแดนแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่ผลสุดท้ายโดนย้ายเข้ากรุไปอยู่เมืองสงขลา

ต่อมาความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ระอุขึ้นมาอีกระลอกเขาจึงได้รับโอกาสกลับเข้าไปทำงานที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี กระทั่งปี 2520 ขึ้นเป็นรองผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีและสมุทรสงคราม

เป็นผู้กำกับการที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วขยับนั่งเก้าอี้หัวหน้าทีมสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และมาเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เลื่อนเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร 11 แล้วติดยศ พล.ต.ต. ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธร 9 คุมพื้นที่แถบจังหวัดตาก นครสวรรค์ และกำแพงเพชร

เมื่อปี 2534 ขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และผู้ช่วยผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจภาค 8 เป็นรองผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ทำหน้าที่รองหัวหน้าตำรวจภูธรภาค 2 และเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธารภาค 2 ก่อนขึ้นผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการสืบสวน) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2540 จนเกษียณอายุราชการในปี 2543 เมื่อครั้งท่านไปประจำอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงโจรชุกชุม ท่านได้สร้างวีระกรรมในการปราบโจรไว้มากมาย เมืองนี้ไม่เหมาะสำหรับโจร ป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดไว้ตรงวงเวียนน้ำพุ เป็นการปราม แบบ ตัดไม้ขุ่มนาม หรือแม้กระทั่งเมื่อสืบทราบว่าบ้านไหนเป็นโจรก็จะเอาโลงไปวางไว้หน้าบ้าน พร้อมข้อความ เหมาะสำหรับโจร

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ