สมัชชาคนจน แถลงการณ์ประณามการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน นัดประชุม 4 ครั้งยังไม่ได้นายกฯ
วันที่ 4 สิงหาคม มีรายงานว่า สมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์ ประณามการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน โดยระบุว่า แถลงการณ์สมัชชาคนจน ประณามการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน นับแต่ทราบผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ของการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มีการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จำนวนหลายครั้ง
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบไม่มากว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดที่มีอยู่ จึงทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผลคะแนนเสียง เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง และผู้ขาดประชุม 44 เสียง
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบว่า การเสนอชื่อบุคคลเพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเป็นผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำไม่ได้ โดยเป็นการอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาเหนือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่กำหนดให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะ ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมกรณีมติประชุมรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ
และขอให้มีคำสั่งให้รัฐสภารอการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เลื่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเป็นผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ไปเป็นวันที่ 4 สิงหาคม 2566
และ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์ ว่าต้องเลื่อนการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน
สมัชชาคนจน เห็นว่า แม้จะมีการนัดประชุมพิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถหาบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น กลายเป็นการเล่นเกมต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองในมือกลุ่มชนชั้นนำ ซึ่งคนกลุ่มนี้ ทำให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปกลายเป็นแค่เรื่องพิธีกรรม เปิดเกมเจรจาต่อรองผลประโยชน์ของกลุ่มฯ และพวกพ้อง อย่างโจ่งแจ้งไม่เกรงกลัวใคร
พร้อมทั้งอ้างว่า ทุกการกระทำของกลุ่มตนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ทำเสมือนประชาชนไม่มีหูมีตา ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ สมัชชาคนจน ขอประณามการทำการเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน และเชื่อมั่นว่า การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชนจะไม่ถูกไว้วางใจจากประชาชน และประชาชนจะร่วมกันตรวจสอบอย่างถึงที่สุด ชาติ คือ ประชาชน ประชาชน คือ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน สมัชชาคนจน 4 สิงหาคม 2566
เรียบเรียง มุมข่าว