เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเป็นธรรม (ปธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงมติของพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง ว่า มติของ 8 พรรคยังมีจุดยืนเดิม ว่าจะเสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างไรก็ตาม เรายังมองเห็นว่าข้อบังคับต่างๆ ที่อีกฝ่ายพยายามที่จะบอกว่าไม่สามารถที่จะเสนอชื่อซ้ำได้จริงๆ ยังผิดฝาผิดตัวอยู่ ไม่มีข้อบังคับไหนที่บอกว่าไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ ฉะนั้น เราจึงยืนยันจุดเดิมว่าเราจะเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

เมื่อถามว่า หาก ส.ว.และ ส.ส.อีกฝ่ายพยายามจะใช้เงื่อนไขนี้ ทางพรรคร่วมฯ จะรับมืออย่างไร นายกัณวีร์กล่าวว่า เราได้มีการเตรียมข้อมูลไว้เพื่อที่จะได้เสนอต่อไปว่า จริงๆ มีลำดับขั้นของกฎหมายอยู่ ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 กับรัฐธรรมนูญ เราต้องดูกฎหมายสูงสุดเป็นกฎหมายหลัก ซึ่งเราคงไม่เอาข้อบังคับมาอยู่เหนือรัฐธรรมนูญได้ เราจะใช้ข้อมูลของเราในการอภิปรายโต้กลับ

เมื่อถามว่า หากในวันนี้ไม่สามารถโหวตชื่อนายพิธาได้จะมีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เลยหรือไม่ นายกัณวีร์กล่าว คงแล้วแต่หน้างาน แต่ 8 พรรคร่วมยังยืนยันจุดยืนเดิมว่าจะเสนอชื่อนายพิธาก่อน แต่หากวันนี้ยังไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ 8 พรรคร่วม ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ส่วนจะเป็นวันนี้หรือวันไหนนั้นต้องดูว่าทางประธานรัฐสภา จะว่าอย่างไร เพราะอยู่ในอำนาจของประธานรัฐสภา

เมื่อถามว่า หากวันนี้เสียงในการโหวตว่าเป็นญัตติซ้ำ เป็นเสียงข้างมาก มองว่าเป็นการสกัดนายพิธาหรือไม่ นายกัณวีร์กล่าวว่า จริงๆ เราจะเห็นว่ามีการพยายามที่จะสกัดไม่ให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว แต่ 8 พรรคเราก็ไม่หวั่นที่เราจะต่อสู้ต่อไป เพราะเราจะยืนเคียงข้างประชาชน อย่างไรก็ตาม ฉันทามติของพี่น้องประชาชนเป็นหลักจริงๆ ฉะนั้นเราต้องยืนจุดยืนของเราให้ได้ในฝ่ายประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ทาง ส.ว.ยืนยันชัดเจนว่าในการจัดตั้งรัฐบาลต้องไม่มีพรรค ก.ก.ในการสมการ นายกัณวีร์กล่าวว่า ตนมองว่าสมการก็ไม่ถูก มีสมการเดียวในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งเราจำเป็นต้องใช้สมการฉันทามติของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก 14 ล้านเสียงที่ลงคะแนนเสียงให้พรรค ก.ก. ก็บอกชัด ซึ่งเมื่อมารวมกับอีกเจ็ดพรรคร่วมก็ชัดเจนแล้วว่าประชาชน อยากเห็นแปดพรรคร่วมนี้จัดตั้งรัฐบาล

ฉะนั้น ความชอบธรรมเรามีค่อนข้างเยอะ และเยอะกว่าอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะให้พรรค ก.ก. กลับไปเป็นฝ่ายค้านนั้น ก็ต้องไปให้สุดทาง หากสุดทางแล้ว ก.ก. ต้องเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ซึ่งในฝ่ายประชาธิปไตยเองก็มองว่าอย่างไรก็ตาม เราก็จะสนับสนุนฉันทามติของพี่น้องประชาชน เมื่อถามว่า พรรค ปธ.จะเดินตามพรรค ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้ายหรือไม่ นายกัณวีร์กล่าวว่า พรรค ปธ.เรามีจุดยืนตั้งแต่วันแรกว่าอย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องมาก่อน อำนาจของประชาชนต้องเป็นหลัก

ฉะนั้น หากพรรค ก.ก.เป็นฝ่ายค้าน พรรค ปธ.เรามีจุดยืนเดียวกัน เราก็ต้องไปเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน และเราพร้อมเป็นฝ่ายค้าน