งงเลย เรืองไกร ชี้ ชาดา ถือหุ้นสื่อ ไม่เหมือน พิธา บอกตรวจแล้วไม่เจอข้อมูล
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือคัดค้าน ประเด็นที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถือครองหุ้นสื่อ Thai Food Network Tv ว่า ประเด็นของนายชาดา ที่มีการถือหุ้น Thai Food Network Tv,Inc. จำนวน 2 หมื่นหุ้น มูลค่า 3,096,000 บาท ได้มาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2554 ระบุว่าเป็นของ นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ (บุตรชาย ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ในฐานะผู้จัดการมรดก
ซึ่งคล้ายกันกับกรณีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ นายเรืองไกรย้ำว่า จะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป แต่เนื่องจากขณะนี้ความยังไม่ปรากฏ และยังมีหลักฐานไม่มากพอ และย้ำว่าตนตรวจแต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ซึ่งต่างจากกรณีของนายพิธา ที่หาวัตถุประสงค์ได้ แต่ของนายชาดา ตนหาชื่อบริษัทที่ถือหุ้นในกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่พบ ทำให้ดูวัตถุประสงค์ยังไม่ได้ และดูรายชื่อบัญชีรายชื่อยังไม่ได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า หากหาข้อมูลกรณีหุ้นนายชาดาพบแล้วจะยังตามต่อหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ต้องตามต่อ การจะกล่าวหาใคร ถ้าจะตรวจข้อเท็จจริง ต้องดูที่มาที่ไป ซึ่งย้อนไปดูนายชาดาเคยยื่นเรื่องหุ้นมาเมื่อปี 2562 แล้ว
ถามต่อว่า การโหวตชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ประธานรัฐสภาสามารถใช้อำนาจเสนอชื่อในการชี้ขาดได้หรือไม่ ตนเห็นว่าไม่ได้ จึงอ้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 80 วรรค 4 ซึ่งต้องฟังกฎหมายของรัฐสภาเป็นหลัก