อาชีพใหม่ รายได้งาม นักนอนหลับมืออาชีพ ค่าจ้าง เดือนละ 40000

อาชีพใหม่ รายได้งาม นักนอนหลับมืออาชีพ ค่าจ้าง เดือนละ 40000

ถ้าพูดถึงการทำงานของคนไทยส่วนใหญ่ทั่วไป ถ้าพักผ่อนไม่เต็มที่อาจจะมีอาการง่วงในเวลาทำงานได้ ซึ่งหลายๆที่ทำงานบางคนอาจจะไม่มีเวลาได้พักสักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่ 1 ชัวโมงในช่วงพักกลางวันซึ่งนับว่าเป็นเวลาที่ไม่มากนัก ในวันนี้ทางทีมมุมข่าวจะพาทุกท่านมารู้จักกับอาชีพที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนนั่นก็คือ อาชีพ นักนอนหลับนับเป็นข่าวที่ฮือฮาไม่น้อย เมื่อสำนักข่าวปักกิ่ง มอร์นิง Beijing Morning Post ของจีนรายงานว่าขณะนี้บริษัท เหน่าไป๋จิน Nao Baijin หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า เมลาโทนิน ได้ประกาศรับสมัคร นักนอนหลับมืออาชีพ โดยพร้อมทำสัญญาว่าจ้างและจ่ายค่าตอบแทนถึง 100000 หยวน หรือกว่า 433000 บาทต่อปี ให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติหลักของผู้สมัคร คือ ต้องเป็นคนที่ชื่นชอบการนอนหลับ และไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานแต่อย่างใด

โดยบริษัทดังกล่าวอยู่ระหว่างการทำวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ และต้องการเก็บข้อมูลการนอนหลับของลูกจ้างที่ทำงานในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ พร้อมเขียนรายงานการวิจัยว่าสินค้าแต่ละชนิด ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับอย่างไรบ้าง

ผู้บริหารของบริษัท เหน่าไป๋จิน ท่านนึงกล่าวว่า ผมขอยกตัวอย่าง อาชีพโปรแกรมเมอร์ มักมีพฤติกรรมนอนดึกตื่นสาย ซึ่งสิ่งที่ผู้สมัครต้องทำ ก็คือการเลียนแบบพฤติกรรมการนอนหลับของโปรแกรมเมอร์ พร้อมรายงานว่าคุณภาพของการนอนหลับเป็นเช่นไร จากนั้นก็เสนอแนวทางในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์

สำหรับผู้ที่จะสมัครเข้ารับคัดเลือก นอกจากจะชอบนอนแล้ว จะต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรงดี สถานะควรเป็นโสด เพราะจะต้องไปอยู่ที่ห้องทดลองโครงการเป็นเวลา 1 ปีเต็ม

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดหางานของจีนเปิดเผยว่า อาชีพนักนอนหลับนี้ ไม่ใช่อาชีพแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ก็มักมีการจ้างนักนอนหลับมืออาชีพไปร่วมโครงการวิจัยอยู่เสมอ โดยให้ค่าจ้างสูงถึง 10 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากปัจจุบันมีชาวอเมริกันจำนวนมากกว่าร้อยละ 30 ที่เผชิญกับภาวะนอนไม่หลับรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิต และต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางในการรักษา

ก็นับว่าเป็นงานที่แปลกที่สุด และน่าจะสบายที่สุดแล้วในโลกนี้แล้วค่ะ คนที่ผ่านการคัดเลือกคงน่าอิจฉาจริงๆ ถ้าบ้านเรามีงานแบบนี้บ้างคงจะดีไม่น้อยเลยนะคะ

ที่มา Beijing Morning Post

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ