ระทึกทั้งถนน รถบรรทุกเบรคแตกขณะลงเขา ชนอัดกระบะวิ่งสวนทาง เสียชีวิต 2 ราย

ระทึกทั้งถนน รถบรรทุกเบรคแตกขณะลงเขา ชนอัดกระบะวิ่งสวนทาง เสียชีวิต 2 ราย

คลิปวงจรปิดเเละกล้องหน้ารถผู้ที่ใช้ถนนจับภาพนาทีรถบรรทุกเบรคแตกขณะวิ่งลงเขามุ่งหน้าพื้นที่ป่าตอง พุ่งข้ามเลนชนอัดกระบะที่วิ่งสวนทางมาอย่างจัง จนทำให้ในรถกระบะมีผู้เสียชีวิตทันที 2 ราย ส่วนโชเฟอร์รถบรรทุกบาดเจ็บ

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.25 น. วันนี้ (19มิ.ย.) ร.ต.อ.ญาณภัทร มาลัย รอ สว.(สอบสวน)สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ สภ.ป่าตอง ว่า มีอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อพุ่งชนกับรถกระบะ ที่บริเวณแยกวัดสุวรรณคีรีวงก์ ขาออกไปฝั่งพื้นที่ต.กะทู้ ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิต2 ราย จึงพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

โดยที่เกิดเหตุเป็นโค้งหักศอกทางลงเขา ซึ่งมีความลาดชัน หลังเกิดเหตุทำให้การจราจรทั้งทางขึ้นและลงเขาติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากรถที่ประสบอุบัติเหตุขวางทางลงเขา โดยบริเวณโค้งหน้าวัดสุวรรณคีรีวงก์ พบรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียนป้ายเหลืองหมาย 71-1588 นครปฐม มีนายปิยะ รัตน์ แก้วประสิทธิ์ อายุ 38 ปี เป็นผู้คนขับ ได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ ถูกนำส่งโรงพยาบาลป่าตองในเวลาต่อมา

ตรวจสอบสภาพรถบรรทุกสิบล้อพุ่งชนอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กจ 3231 ภูเก็ต สภาพด้านหน้ารถพังยับทั้ง2คัน ภายในรถกระบะพบร่าง ผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายถูกแรงกระแทกอัดติดอยู่ในซาก รถทราบชื่อ นายประศาสน์ ประทีบ ณ ถลาง อายุ 64 ปี และ นายคะเมต เชื้อญวน อายุ 62 ปี ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดซากรถเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อให้แพทย์ชันสูตร

จากกสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ ขับลงมาจากเขาป่าตองมุ่งหน้าพื้นที่ต.ป่าตอง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าเกิดระบบเบรคขัดข้องหรือเบรคแตก ทําให้รถเสียการควบคุม วิ่งไถลข้ามเลนไปชนกับรถยนต์กระบะผู้เสียชีวิตที่กําลังขับรถขาออกจากพื้นที่ต.ป่าตองวิ่งสวนมาอย่างจัง ทําให้ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะและ ผู้โดยสารเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป

ข่าวโดย ชัยมงคล สุวรรณวงค์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ