ภรรยา เอส กันตพงศ์ เผยครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ต้องดูอาการวันต่อวัน
เรียกได้ว่าต้องส่งกำลังใจให้อย่างต่อเนื่องกับครอบครัวของพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ ที่เมื่อจู่ๆได้หมดสติกลางเวที ที่เจ้าตัวทำหน้าที่พิธีกร เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้หนุ่ม เอส กันตพงศ์ ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งร่างกายมีการตอบสนองต่อการรักษาแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ
ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.2566 คิตตี้ คริสติน่า ภรรยา เอส กันตพงศ์ ได้อัพเดตอาการล่าสุดของสามี ยังอยู่ในวิกฤต ระบุว่า สวัสดีค่ะ วันนี้ฉันอยากจะมาอัปเดทอาการของคุณเอสที่ผ่านมา ฉันและทางครอบครัวยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณเอสเนื่องจากทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าในตอนนี้อาการของเอส ยังอยู่ในวิกฤต
พวกเราเสียใจและหนักใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ส่วนวาเลนตินาก็ร้องไห้เรียกหาแต่พ่อตลอดเวลา แต่ฉันก็พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อลูก
แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ฉันกับครอบครัวจะต้องออกมาบอกรายละเอียดทั้งหมดของคุณเอส ซึ่งฉันรู้ว่าทุกคนกำลังรอฟังข่าวดีอยู่ แต่ในตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีเพราะว่าอาการป่วยของเขายังอยู่ในวิกฤต แต่ฉันพร้อมที่จะเปิดใจและพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้มากขึ้น
อย่างที่ทุกคนทราบก่อนเกิดเหตุณ์สามีของฉันได้ไปทำงานเป็นพิธีกร งาน Big Debate by Ch7 ที่ลานสยามพารากอน ขณะที่เขากลังทำงานหัวใจของเขาได้หยุดเต้นกะทันหันและได้รับการทำ CPR ฉุกเฉินและนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งใช้เวลานานมาก กว่าที่หัวใจของเขาจะกลับมาเต้นอีกครั้ง ได้รับCPR ประมาณ 19 นาทีที่สยาม
และทั้งหมดใช้เวลาถึง 45นาทีที่ปั๊มหัวใจรวมบนรถฉุกเฉิน ฉันต้องขอขอบคุณทีมเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินที่ไม่ยอมแพ้ ในการช่วยชีวิตของคุณเอส และพี่ยาช่างแต่งหน้าของเขาที่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยชีวิตเขา ตัดสินใจแบบนี้น่าจะช่วยชีวิตเอส
ตั้งแต่ที่เขาได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการของเขาก็ยังอยู่ในวิกฤต และมีอาการแทรกซ้อนที่หัวใจ วันก่อนหัวใจของคุณเอสก็มีปัญหาอีกครั้ง และแพทย์ก็ได้ทำการช่วยชีวิตไว้อีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นทางแพทย์ที่รักษาคุณเอสได้ออกมายืนยันแล้วว่าเขามีอาการหัวใจอักเสบแต่ยังไม่สามารถระบุอะไรได้มากกว่านี้
เนื่องจากอยู่ในกระบวนการและขั้นตอนของการรักษาอยุ่ แพทย์ได้แจ้งว่าต้องเฝ้าดูอาการของคุณเอสแบบ วันต่อวัน ซึ่งแพทย์ยังหาสาเหตุที่ชัดเจนและหาแนวทางรักษายังไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะต้องรักษาตัวที่ห้อง ICU นานแค่ไหน และจะฟื้นตัวเต็มที่ได้เมื่อไหร่
เรียบเรียง มุมข่าว