เสรีพิศุทธ์ ชี้ MOU ก้าวไกล ลงรายละเอียดผูกมัดเยอะไป จ่อส่งแก้ไข แนะควรเป็นแค่กรอบกว้างๆ
เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลนำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ล่าสุดทางด้านผู้ประกาศข่าวชื่อดัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้โพสต์ข้อความว่า เสรีพิศุทธ์ ชี้เอ็มโอยู ก้าวไกล ลงรายละเอียดผูกมัดเยอะไป จ่อส่งแก้ไข แนะควรเป็นแค่กรอบกว้างๆ มุ่งให้ทุกฝ่ายมีอุดมการณ์ตรงกัน ย้ำการเดินหน้าตั้งรัฐบาล ต้องยืนหยัดอย่าถอย จะฟังเสียงให้ 100% เปอร์เซ็นต์ เป็นไปไม่ได้
20 พ.ค.2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาเอ็มโอยู ของพรรคก้าวไกล เพื่อตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้ตนกำลังดูอยู่โดยเนื้อหาเอ็มโอยูมีประมาณ 1 หน้ากระดาษกว่าๆ และกำลังดำเนินการแก้ไขเพื่อส่งกลับไป เนื่องจากตนมองว่าเนื้อหาในเอ็มโอยู มีการลงรายละเอียดมากเกินไป เช่น ปฏิรูปทหาร ประเด็นสมรสเท่าเทียม ประเด็นสุราก้าวหน้า แต่ไม่มีประเด็นมาตรา 112
ทั้งนี้ ตนมองว่าเอ็มโอยูข้อตกลงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนี้ มันต้องไม่ลึกลงลึกในรายละเอียด แต่ควรจะทำให้เป็นภาพกว้างๆ เพราะมันเหมือนว่าพรรคก้าวไกล กำลังจะผูกมัดพรรคร่วมเพื่อให้เห็นด้วยกับประเด็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งบางเรื่องตนก็เห็นด้วยแต่มองว่ามันไม่ควรผูกมัดกันไว้ และหากจะแก้ไขหรือทำเรื่องอะไร ก็ไปดำเนินการในขั้นตอนรัฐสภา พร้อมย้ำว่าเอ็มโอยูควรจะทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการ ประชาชน 70 ล้านคน มีอุดมการณ์ร่วมกันและเข้าใจตรงกันก่อน ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่พรรคเสรีรวมไทย จะส่งข้อเสนอแนะนี้กลับไปให้พรรคก้าวไกล เพื่อพูดคุยกันอีกที ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทันการประกาศแถลงร่วมวันที่ 22 พ.ค.นี้
ส่วนกรณีพรรคก้าวไกล ดึงพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมรัฐบาลนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบหลังข่าวออก และประเด็นที่ประชาชนบางส่วนแอนตี้เรื่องนี้ ตนมองว่าพรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่ได้ไปร่วมยึดอำนาจด้วยเพียงแต่ว่าเขาไปร่วมรัฐบาลด้วย ฉะนั้นตรงนี้ถ้าเขาไม่เอา รวมถึงประชาธิปัตย์ 20 กว่าเสียงถ้าคุณไม่เอา แล้วคุณจะไปเอาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากไหนมาได้ ซึ่งก็ไม่รู้คนที่คัดค้านอยู่ฝ่ายไหนแน่
เมื่อถามว่า ถ้าไม่เอาฝ่ายที่อยู่ข้างรัฐบาลเดิมเลย จะถือว่าเป็นเกมที่ยากต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เสียงคัดค้านมีเท่าไหร่ล่ะ คนสองคนทำขึ้นมามันทำให้ถึงขั้นจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เลยหรือ ฉะนั้นพรรคก้าวไกลต้องยืนหยัดทำอะไรต่างๆ จะให้มัน 100 เปอร์เซ็นต์เป็นไปไม่ได้หรอก พร้อมเสนอว่าพรรคก้าวไกลจะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไปอย่าได้ถอย
ส่วนกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นี้ตนมองว่าก็ควรจะช่วยการเดินหน้าเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ ประเด็นเล็กๆน้อยๆอย่าไปมองเลย ประเด็นเท่ามด คุณมองก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อถามต่อว่า ถ้า 2 ป. พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ยอมถอยวางมือทางการเมือง พรรคก้าวไกล ก็จะสามารถจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพลังพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ต้องเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล แต่ตนจุดยืนหนึ่งเดียวคือสนับสนุนโดยจะไปพูดคุยกับ ส.ส. และ ส.ว. ให้ พร้อมย้ำว่าเล็กๆน้อยๆก็ต้องผ่านไปบ้าง เพื่อให้ทำงานใหญ่ได้
ส่วนกระแสการตั้งรัฐบาลใหม่นี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า วง 8 พรรคตั้งรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องจัดวางเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะเมื่อยังรวมไม่ได้จะแบ่งกันได้อย่างไรซึ่งยังไม่ถึงเวลา ขอให้มาร่วมใจตั้งรัฐบาลกันให้ได้เสียก่อน เมื่อถามว่า พรรคเสรีรวมไทย มองไว้บ้างหรือไม่ว่าถนัดทำงานในกระทรวงใด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ต้นไม้เค้ามองเพราะมีเพียงแค่ 1 เสียงซึ่งพูดไม่ได้ แต่คิดว่าการบริหารจัดการไม่ว่าองค์กรการเมืองหรือเอกชน ควรพิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถให้เหมาะสมกับงาน พอท่าบริหารแบบรัฐบาลก่อนๆโดยอิงตามโควต้า ก็จะไม่ได้ผู้ที่รู้งานเข้ามาทำงาน
เรียบเรียง มุมข่าว