ตร.ทางหลวง ขับรถตามรถต้องสงสัย สุดท้ายจนมุมสารภาพสิ้น

ตร.ทางหลวง ขับรถตามรถต้องสงสัย สุดท้ายจนมุมสารภาพสิ้น

วันนี้ 20 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับ 2 บก.ทล ได้สั่งการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงออกกวดขัน ปราบปรามบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามเส้นทางที่รับผิดชอบ

กระทั่ง ออกตรวจมาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 323 กท. 80 (ขาเข้า กทม.) ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ไฮลักซ์ รีโว่ สีดำ ทะเบียน บห 5263 สุพรรณบุรี ขับส่ายไปส่ายมา ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย ด้านท้ายกระบะมีผ้าคลุมมีลักษณะต้องสงสัยว่ามีการบรรทุกบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอยู่ในรถคันดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเพื่อเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องขับหนีอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกลุ่มจึงได้ไล่ติดตามไประหว่างทางรถคันดังกล่าวได้ขับขี่ปาดไปปาดมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ประสานงานไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยสกัดจับ เมื่อมาถึงบริเวณถนนวัดหัวนา - วัดถ้ำขุนไกร ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับ สามารถสกัดจับไว้ได้พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม

ตรวจสอบพบคนขับทราบชื่อนายปัญญา แคไทยสงค์ อายุ 37 ปี เป็นชาวท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นที่บริเวณท้ายรถกระบะได้ใช้ผ้าคลุมไว้ และในห้องผู้โดยสาร พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ จำนวน 12 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน และหญิงจำนวน 7 คน (มี 2 คน ที่มีใบอนุญาตแต่หมดอายุแล้ว)

จากการสอบถามนายปัญญา รับว่า ได้รับตัวบุคคลต่างด้าวจำนวน 12 คน มาจากต้นทางบริเวณป่าละเมาะริมทางหลวงหมายเลข 323 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และออกเดินทางจาก อำเภอสังขละบุรี เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 20 มีนาคม 2566 โดยใช้เส้นทางการขนย้ายบุคคลต่างด้าวผ่านทางหลวงหมายเลข 323 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ถนนเลี่ยงเมืองทางหลวงหมายเลข 367 อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ขาเข้า กทม.

โดยมุ่งหน้าไปส่งบุคคลต่างด้าวที่บริเวณริมถนน ทุ่งมะสังข์ - ลาดหญ้า ตำบลหนองกุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 7,000 บาท แต่ครั้งนี้มาถูกตำรวจจับเสียก่อน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันที่ใช้ก่อเหตุพบว่าเป็นหมายเลขทะเบียนของรถอีกคันหนึ่งซึ่งไม่ตรงกัน ซึ่งได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 54

และทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลต่างด้าวทั้ง 12 คน เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว 2 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวโดย ปรีชา ไหลวารินทร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี

เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ