ถ้ำหลวง เปิดวันแรก ผู้คนนับพันแห่แลกบัตร เข้าชมถ้ำ ฝ่าฝืนกฏไม่รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีเปิดบริเวณปากถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีเปิดบริเวณปากถ้ำหลวงอย่างเป็นทางการ โดยมีนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ
พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม หลังเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ทดลองเปิดให้เข้าชมแล้ว นำมาปรับให้เหมาะสมกว่าเดิม ก่อนการเปิดให้เข้าชมจริงอย่างถาวรในครั้งนี้ดังกล่าว พิธีในช่วงเข้าเติมต้นด้วยการการประกอบพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณปากถ้ำหลวง จากนั้นมีพิธีสงฆ์และเมื่อพระสงฆ์ 5 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์แล้วประพรมน้ำมนต์จึงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมภายในถ้ำหลวงได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในถ้ำหลวงพบว่าในช่วงต้นฤดูหนาวนี้ น้ำภายในโถงที่ 1 หรือตรงปากถ้ำแห้งสนิท โดยเห็นเพียงร่องน้ำและช่องที่ลึกเข้าไปสู่โถงที่ 2 แต่บริเวณดังกล่าวยังคงเป็นโถงขนาดใหญ่ที่มีหินงอกหินย้อยงดงามและมีคานทางเดินไปสู่เบื้องล่าง ทำให้ผู้คนภายนอกได้สัมผัสถึงบรรยากาศเมื่อครั้นเกิดเหตุการณ์ทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คน นำรถจักรยานไปจอดพาดไว้ที่คานโลหะดังกล่าว ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในถ้ำได้เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำหนดกฎระเบียบการเข้าชมอย่างเข้มงวด โดยกำหนดให้เข้าชมได้เฉพาะเวลา 08.30-16.30 น.ของทุกวัน และปากทางเข้าถ้ำจะตั้งโต๊ะเพื่อให้แลกบัตรห้อยคอ ซึ่งมีเนื้อหาให้เดินไปตามจุดที่กำหนดอย่างเข้มงวดเพียง 3 จุดคือปากถ้ำ ศาลเจ้าแม่นางนอน และปากถ้ำโถงที่ 1 ซึ่งพบว่าในวันแรกมีนักท่องเที่ยวที่แลกบัตรเป็นจำนวนมากกว่า 2,000 คน
โดยจะมีเจ้าหน้าที่แจ้งระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้กลับออกมาแลกบัตรเพื่อให้นักท่องเที่ยวชุดใหม่สับเปลี่ยนเข้าไปตามลำดับ ทั้งนี้ยังย้ำเตือนให้รักษาเวลา รักษาความสะอาด และปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดโดยหากพลัดหลงทางเจ้าหน้าที่จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นด้วย
ขณะที่บริเวณภายนอก เช่น ถ้ำพระ อนุสาวรีย์นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ผู้เสียสละชีวิตในปฏิบัตการช่วยเหลือทีมหมูป่า ศาลาอนุสรณ์สถานที่มีภาพวาดปฏิบัติการ สร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย และศิลปินจากสมาคมขัวศิลปะเชียงราย ขุนน้ำนางนอนหรือสระมรกต ยังคงเปิดให้เข้าชมได้โดยไม่ต้องแลกบัตรตามปกติ
นายจงคล้าย กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแนวทางพัฒนาให้อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญควบคู่ไปกับการอนุรักษ์รวมทั้งยกฐานะจากการเป็นวนอุทยานให้เป็นอุทยานแห่งชาติฯ โดยทางนายวราวุฒิ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็เดินทางไปเปิดป้ายใหม่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นเตรียมการแล้ว
ส่วนการเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในครั้งนี้ดังกล่าว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนภายนอกได้สัมผัสและส่งเสริมการท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กัน เพราะนอกจากภายในถ้ำหลวงยังมีบริเวณอื่นๆ ที่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานแห่งนี้ได้อีกหลายจุดด้วย เช่น ถ้ำทรายทอง ฯลฯ
สำหรับภายในถ้ำหลวงนั้นจากการร่วมสำรวจระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมทรัพยากรธรณี พบว่าแท้ที่จริงมีความลึกตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงบริเวณเนินนมสาวที่เยาวชนทั้ง 13 คนติดอยู่ประมาณ 2,315 เมตร ไม่ได้ลึกมากอย่างที่เคยเข้าใจกัน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้อนุรักษ์และบริหารจัดการให้มีความเหมาะสม และสมดุลระหว่างธรรมชาติและการท่องเที่ยวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติฯ พบว่าในปีงบประมาณ 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนถ้ำหลวง มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เพียงแห่งเดียว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 1,573,475 คน และในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาก่อนการเปิดให้เข้าชมภายในถ้ำอย่างเป็นทางการดังกล่าว พบว่ามีนักท่องเที่ยวไปเยือนจำนวน 1,971 คน