แม่ค้าขายไก่ทอด ใจดีเป็นเหตุ จู่ๆ ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง

แม่ค้าขายไก่ทอด ใจดีเป็นเหตุ จู่ๆ ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์เตือนภัยสำหรับกลโกงใหม่ ที่อาจมีความผิดโดยไม่รู้ตัว หลังจากใจดีทำธุรกรรมกับคนแปลกหน้า โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ย.65 ที่ผ่านมา นางพัฒน์นรี อายุ 53 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี เข้าขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังพบว่าบัญชีธนาคารถูกอายัดและได้รับแจ้งจากธนาคารเจ้าของบัญชีว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรีอายัดบัญชีเนื่องจากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางออนไลน์

โดยนางพัฒน์นรี เล่าว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ใช้แอปพลิเคชั่นของธนาคารกสิกรไทยเพื่อทำธุรกรรมแต่ปรากฏว่าบัญชีของตนถูกอายัด จึงได้เดินทางไปติดต่อที่สาขา ปรากฏว่าได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารว่าบัญชีธนาคารของตนถูกตำรวจ สภ.เพชรบุรี เป็นผู้แจ้งอายัด และเมื่อตนติดต่อไปยังตำรวจตามที่พนักงานธนาคารให้มา

ตำรวจคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี และแจ้งว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความหลังจากตกลงซื้อขายอุปกรณ์เบเกอรี่แต่ตนไม่ส่งสินค้า และผู้เสียหายสูญเงินกว่า 5 หมื่นบาท และยังแจ้งให้ตนโอนเงินคืนเพื่อจบคดี ไม่ฉะนั้นตนจะต้องเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง

หลังทราบเรื่องตนตกใจมาก และเมื่อลำดับเหตุการณ์ ก็พบว่าขณะที่ตนเดินทางไปซื้อวัตถุดิบเพื่อทำไก่ทอดขายตามปกติที่ห้างขายส่งแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ตนซื้อ ของเสร็จเรียบร้อยและกำลังเดินมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่ลานจอดรถ ก็ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งเดินไปมาในลักษณะร้อนรนและเข้ามาขอความช่วยเหลือจากตน

โดยอ้างว่า มาซื้อ วัตถุดิบในการทำขนมเบเกอรี่ในห้างขายส่งดังกล่าวแต่บัตร ATM ได้เกิดชำรุดไม่สามารถกดเงินได้และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้เงินจ่ายค่าสินค้า และขอให้ตนรับโอนเงินจากสามีที่อ้างว่าอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเบิกเป็นเงินสดให้เขานำไปจ่ายค่าสินค้า ด้วยความสงสารตนจึงได้ตกลงรับปากและได้บอกหมายเลขบัญชีธนาคารของตนให้กับผู้หญิงคนดังกล่า วและรออยู่ประมาณ 20 นาทีก็พบว่ามีเงินจำนวน 54,000 บาท โอนเข้ามาในบัญชีของตน

จึงได้ไปกดเป็นเงินสดให้กับหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ขณะที่ตนกำลังจะเดินทางกลับผู้หญิงคนดังกล่าวแจ้งกับตนอีกว่าจะมียอดเงินโอนเข้ามาอีก 9,000 บาท ขอให้ตนรออยู่ก่อนเพื่อกดเงินจำนวนดังกล่าวให้ แต่เนื่องจากตนมีภารกิจต้องรีบกลับไปที่บ้านพักเพื่อเตรียมตัวขายไก่ทอดในวันรุ่งขึ้นจึงได้ปฏิเสธ แต่หญิงคนดังกล่าว แจ้งว่าให้ตนเดินทางกลับบ้านไปก่อนได้เมื่อมีเงินโอนเข้ามาจะแจ้งให้ทราบ จึงได้แลกหมายเลขโทรศัพท์กันและเมื่อตนกลับมาถึงบ้านพักที่ ต.วัดประดู่

หญิงคนดังกล่าวก็โทรเข้ามาในมือถือของตนเองและแจ้งว่าเงินจำนวนเงินจำนวน 9,000 บาท ได้โอนเข้าบัญชีมาแล้ว ขอให้โอนกลับไปที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ โดยที่ตนไม่ทันได้ดูว่ามียอดเงินโอนเข้ามาเท่าไหร่ก็ได้โอนเงินจำนวน 9,000 บาท ให้กับผู้หญิงคนดังกล่าว

จนเมื่อตนมาดูรายการรับโอนก็พบว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชีเพียง 8,000 บาทจึงได้โทรกลับไปที่หมายเลขของผู้หญิงคนดังกล่าวแต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนั้นรู้สึกเสียใจว่าตนพลาดโอนเงินให้เกินไป 1,000 บาท เมื่อติดต่อไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะไปตามได้ที่ไหน จึงถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ 

จนมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย ตนต้องการทำธุรกรรม ก็พบว่าบัญชีของตนถูกอายัด ซึ่งตนไม่ได้เอะใจเลยว่าการที่ตนรับเงินโอนทั้ง 2 ครั้งของผู้หญิงคนดังกล่าวจะทำให้ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการซื้อขายทางออนไลน์ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ