ปัญหาการเล่นสมาร์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว สภาประชาชนแห่งชาติจีนมณฑลเจ้อเจียง ได้อนุมัติกฎหมายใหม่ของเมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งมุ่งส่งเสริมพฤติกรรมศิวิไลซ์หลายประการด้วยกัน ดังนี้

ห้ามใช้สมาร์ตโฟนขณะเดินข้ามถนน ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 50 หยวน (ราว 210 บาท)

ห้ามทิ้งขยะจากยานพาหนะที่กำลังวิ่งอยู่ ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 20-200 หยวน (ราว 85-850 บาท)

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามกฎเมื่อจอดรถในลานจอดสาธารณะ มีโทษปรับ 100 หยวน (ราว 426 บาท)

ห้ามส่งเสียงดังก่อความไม่สงบในอาคารสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ และโรงภาพยนตร์ มีโทษปรับสูงสุด 200 หยวน (ราว 850 บาท)

ประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในกฎหมายใหม่ชุดนี้คือเรื่องการห้ามเล่นโทรศัพท์มือถือขณะข้ามถนน ข่าวกฎหมายใหม่นี้กลายเป็นไวรัลในประเทศจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฮชแท็ก เล่นโทรศัพท์มือถือขณะข้ามถนนผิดไหม ในเว่ยป๋อ โซเชียลมีเดียของจีน กลายเป็นกระแสที่มีผู้พูดถึงแท็กนี้กว่า 54 ล้านครั้งแล้ว และเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม เนชันแนลบิสิเนสเดลีย์ สื่อจีนได้สำรวจผู้ใช้เว่ยป๋อ 3,500 ราย พบว่าราว 60 เปอร์เซ็นต์ระบุว่ามองจอมือถือไปด้วยขณะข้ามถนนเผื่อมีข้อความสำคัญ ขณะที่คนที่เหลือระบุว่าจะไม่ยอมเอาความปลอดภัยไปเสี่ยง

ผู้ใช้เว่ยป๋อส่วนมากให้การสนับสนุนการปรับผู้เล่นโทรศัพท์ขณะข้ามถนน ทั้งยังสนับสนุนให้ประกาศใช้ทั่วทั้งประเทศด้วย ทว่าก็มีการตั้งคำถามว่าจะบังคับใช้จริงได้อย่างไรเมื่อมีผู้ประทำผิดกฎจำนวนมาก และค่าปรับ 50 หยวนนั้นก็น้อยเกินไป

อีกด้านหนึ่งก็มีผู้มองว่าไม่สมเหตุสมผล โดยชี้ว่าหากทั้งผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้ข้ามถนนปฏิบัติตามกฎหมาย ตามทางม้าลายขณะที่สัญญาณไฟจราจรให้ข้ามก็ควรจะเล่นมือถือได้

ผู้ใช้เว่ยป๋อที่สนับสนุนกฎหมายนี้แสดงความเห็นว่าไม่ควรปล่อยให้คนที่ละเลยเรื่องความปลอดภัยมาทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเป็นอันตรายได้ด้วย

ทั้งนี้เมื่อปี 2017 ในมณฑลกวางตุ้งเคยเกิดเหตุการณ์จักรยานยนต์ชนเข้ากับผู้เดินข้ามถนนโดยเล่นมือถือไปด้วยโดยไม่ได้ข้ามตามสัญญาณไฟจราจร เมื่อเธอรู้สึกตัวว่ามีจักรยานยนต์ตรงเข้ามาจึงเร่งฝีเท้าด้วยความตกใจและปะทะกัน ส่งผลให้ตัวเธอได้รับอันตราย ขณะที่ผู้ที่โดยสารซ้อนท้ายจักรยานยนต์มาก็ได้รับอันตรายเช่นกัน