จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าตรวจค้นสถานบริการจินหลิง ย่านยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน พบพนักงานและบุคคลชาวกัมพูชา และชาวไทยในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกจำนวนกว่า 29 คน ตรวจยึดรถยนต์หรูกว่า 30 หนึ่งในรถยนต์หรูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้นั้น

ผู้ต้องหาหญิงชาวจีนเป็นผู้ขับ มีชายชาวจีนเป็นเจ้าของรถยนต์ ซึ่งชายชาวจีนคนดังกล่าว แต่ถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาในการเดินทางและยังมีหนังสือเดินทางของประเทศต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก

รวมทั้งสวมสิทธิเป็นคนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชน เงินที่ได้จากการหลอกลวงจะถูกนำมาฟอกด้วยการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ซื้อบ้านหรู คอนโดหรู รถยนต์หรู และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้น

โดยได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด ที่คาดว่าเป็นที่พักอาศัย และใช้ในการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ซึ่งเป็นเครือข่ายของผู้ต้องหาผับจินหลิง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถยนต์หรู, เงินสดกว่า 40 ล้านบาท รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนเนม และทรัพย์สินต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 300 ล้านบาท

ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย.65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังบุกค้นเพนท์เฮาส์หรูสองแห่งย่านตากสิน พบรถยนต์โรลส์รอยซ์ 2 คัน รถเบนซ์ มายบัส 1 คัน

พร้อมของแบรนด์เนม สิ่งของและเงินสดอีก 19 ล้านบาท รวมมูลค่า 150 ล้านบาท โดยเป็นการขยายผลจากเครือข่ายนายทุนจีน ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรูที่จอดทิ้งไว้หน้าผับจินหลิง ย่านยานนาวา