ป้าเงินในบัญชีหาย เปิดใจ หลังธนาคารแจงถอนเงินไปแล้ว พร้อมเปิดหลักฐาน

ป้าเงินในบัญชีหาย เปิดใจ หลังธนาคารแจงถอนเงินไปแล้ว พร้อมเปิดหลักฐาน

จากกรณีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา นางสำราญ ชาวยโสธร อายุ 59 ปี ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทยที่มีเงินเหลือในบัญชี 10,606.73 บาท และบัญชีไม่ได้เคลื่อนไหวมานาน ได้เข้าไปสอบถามกับธนาคารซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นธนาคารธนชาต แต่ได้คำตอบว่าบัญชีถูกระงับ และไม่พบในฐานข้อมูล

พร้อมทั้งขอเจาะสมุดบัญชี กระทั่งลูกชายทราบเรื่องจึงไม่ยอม จึงมาร้องเรียนสื่อให้ช่วยตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่เคยถอนเงินเป็นเวลา 15 ปีแล้วและไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งเตือนใดๆ จากธนาคาร

ตั้งแต่ทราบเรื่อง ธนาคารก็มิได้นิ่งนอนใจเร่งทำการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในระบบกลับไปกว่า 15 ปี และพบว่า บัญชีเงินฝากของนางสำราญ ศักดิ์ศรีดังกล่าว ได้มีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ซึ่งรายการนี้ไม่ได้ถูกอัพเดตในสมุดบัญชีเงินฝากตามที่ปรากฏในสื่อ และบัญชีเงินฝากดังกล่าวมีสถานะถูกปิดบัญชีตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2552 ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นบัญชีภายใต้ธนาคารนครหลวงไทย

ต่อมา วันที่ 2 พฤศจิกายน ทีเอ็มบีธนชาต ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดัง ความว่า จากกรณีที่นางสำราญ ศักดิ์ศรี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ได้มีการนำสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารนครหลวงไทย สาขายโสธร ที่มีรายการแสดงเงินคงเหลือในบัญชี 10,606.73 บาท ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2550

และไม่ได้เคลื่อนไหวบัญชีนานถึง 15 ปี เข้าไปสอบถามกับพนักงานของทีเอ็มบีธนชาต แต่ได้รับข้อมูลว่าบัญชีดังกล่าวถูกระงับ และไม่พบฐานข้อมูลในระบบ ธนาคารขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

ล่าสุด นางสาวกรกนก สิงห์ชู ผู้จัดการธนาคาร ทีทีบีธนชาต สาขายโสธร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ราย นำเอกสารสเตทเมนต์ของธนาคารนครหลวงไทย มาแสดงให้นางสำราญ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบ

นางสำราญ เปิดใจว่า วันนี้มีผู้จัดการธนาคารทีทีบีธนชาต สาขายโสธรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ธนาคารเดินทางมาหาตนที่บ้านพักพร้อมได้นำเอกสารสเตทเมนต์การเบิกถอนเงินมาอธิบายให้ฟัง พร้อมทั้งบอกว่าดีใจเพราะได้เห็นหลักฐานแล้ว

ซึ่งที่ตนติดใจเนื่องจากที่ไปธนาคารครั้งแรกเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลย ส่วนรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่ธนาคารเอามาให้ดูพบว่าเป็นการเบิกเงิน 1 หมื่นบาทในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 จำนวน 10,000 บาท ผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย

ซึ่งขณะนี้ตนยังพยายามนึกถึงเหตุการณ์ครั้งดังกล่าวแต่ก็ยังจำความไม่ได้เนื่องจากเป็นเวลาที่นาน ส่วนบัตร ATM ตนก็จำไม่ได้ว่าได้ทำหรือไม่ เพราะหากมีบัตรก็คงต้องอยู่ในซองเดียวกันกับสมุดบัญชี

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ