หมอก้อง โดนมองทำดีสร้างภาพ ลั่นอยู่วงการ 11 ปี โดนมองไม่แมนมาตลอด

หมอก้อง โดนมองทำดีสร้างภาพ ลั่นอยู่วงการ 11 ปี โดนมองไม่แมนมาตลอด

อยู่ในวงการมานานถึง 11 ปี สำหรับ หมอก้อง สรวิชญ์ ดาราหนุ่ม ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องone31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ถึงประเด็นที่ลาออกจากราชการ โดนดองละครนานถึง 6 ปี ทำดีสร้างภาพ และข่าวเมาธ์ถึงความไม่แมน

แล้วไปอุบลฯ ไปทำอะไรบ้าง

ได้มีโอกาสไปกับช่อง 3 ครั้งนึง แต่มันเหมือนยังไม่อิ่มก็อยากมาอีก แต่ทีนี้ไม่อยากเอาของไปแจกแล้ว ของแจกใครก็แจกได้ อยากไปช่วยคลีน ไปใช้แรงงาน ผมเพิ่งไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว บางพื้นที่น้ำมันไม่ลง อย่างตอนนี้ทหารก็ช่วยกันเต็มที่

แต่บางคนก็มองว่าเราทำดีสร้างภาพ

สร้างภาพดี เดือดร้อนใคร ถามว่าเวลาที่ใครทำอะไรขึ้นมาก็ตามต้องถามว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือยัง เกิดประโยชน์มั้ย แล้วเดือดร้อนใคร ถามว่าบั่นทอนมั้ยก็ไม่นะครับ เพราะมันเจอมาเยอะ เราเอาเสียงนี้เข้าหูแล้วให้มันตกที่หูอย่าให้ถึงใจ เพราะถ้ามันถึงใจเราปุ๊บมันจะอยู่ทางด้านลบ แล้วมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

ตอนนี้อยู่วงการมา 11 ปี จุดเริ่มต้นมาได้ยังไง

เข้ามาตอนนั้นช่อง 3 เขาหานักแสดงใหม่ แล้วมีการประกวดขึ้นมา เราเข้ามาร่วมประกวดกับเขา แล้วการประกวดมันไม่จบ ทางช่อง 3 ก็เลยเอาทั้งหมดไปเรียนการแสดงเป็นเรื่องเป็นราว พอจบปุ๊บเขาก็มีการเทสต์ก็ได้รับคัดเลือกมาตอนนั้น

แล้วได้เล่นเป็นพระเอกโดนดอง 6 ปีเลยเหรอ

มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ถ้าเกิดว่าทางช่องเขามองว่าเรื่องนี้ออกมามันอาจจะไม่ตรงเวลา บางทีของดีนะไม่ใช่ไม่ดี แต่บางทีมันอาจจะผิดเวลา บางทีมีไม่ได้ออนแอร์เลยก็มี

เห็นว่าออกมาแล้วเรตติ้งก็แฮปปี้เลย

ยิ้มเลยครับ ดีใจที่คนดู จริงๆ มีคนถามเยอะว่าทำไมหน้าไม่ตรงปก ไปทำไรมาทำไมหน้าเปลี่ยน เอ่อ 6 ปีเองครับ มันผ่านมา 6 ปีหน้าก็ต้องเปลี่ยนครับ

น้อยใจไหมโดนดองนานขนาดนี้

ถ้าถามว่าเรื่องนี้น้อยใจมั้ย ผมไม่น้อยใจ แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมชอบนะ คือตอนที่เราเล่น เราจำได้เลยว่ามันสนุก แต่อย่าถามนะว่าเรื่องเป็นยังไงลืม

ที่ทราบมาก็คือออกจากหมอมาเป็นนักแสดงจริงไหม

ไม่เชิง ต้องใช้คำว่าออกจากราชการ แต่ก็ยังไปตรวจอยู่เหมือนเดิม ยังเข้าตรวจอยู่ ถามว่ายังรับราชการอยู่มั้ย ไม่แล้ว แต่เป็นหมอ

อาชีพปกติทำไมไม่สามารถควบคู่กันได้เหรอ

มันควบคู่ไปได้จนถึงจุดหนึ่งที่มันไปไม่ได้แล้ว มันถึงจุดที่ต้องเลือก คือ ณ ตอนนี้ระเบียบวินัยมันค่อนข้างที่จะเข้มงวด ถ้าเกิดว่าเรายังอยู่อย่างนี้เราสร้างความเดือดร้อนแน่นอน ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ทางราชการ เจ้านายก็เริ่มแบบ ก้อง คราวนี้เราจะบอกเขาได้ไงว่าละครมันถ่ายอยู่ ผมก็ไม่รู้จะยังไง โอเคถึงที่สุดแล้วก็ต้องลาออก

ทำไมเลือกที่จะลาออกไม่เลือกที่จะอยู่ในราชการแล้วหยุดเป็นนักแสดง

เพราะตอนนั้นยังถ่ายละครไม่จบ แล้วถามว่ารักอาชีพนักแสดงมั้ย รักการเป็นนักแสดง ถ้าเกิดลาออกมาแล้วเรายังเป็นหมอได้มั้ยก็ยังเป็นอยู่ ไม่ได้เดือดร้อน

ตอนนั้นที่เราเป็นหมอแล้วเป็นนักแสดงด้วย ตอนนั้นบาลานซ์ยังไง

ตอนนั้นยังบาลานซ์ได้อยู่ เพราะว่าเราจัดเป็นตารางเวรอยู่แล้ว เราเข้าตรวจเมื่อไหร่ เราสามารถล็อกเวลาเราได้ ถ้าเกิดเสร็จงานหลักไปกองถ่ายไปได้ ถามว่าทุกวันนี้เป็นแบบนั้นได้มั้ย มันก็ได้ แต่ว่าระเบียบข้ออื่นๆ เราทำไม่ได้ มันมีระเบียบข้อย่อยๆ อีกหลายอย่าง

นานไหมที่ออกมา

ต้นปีนี่เองครับ เพิ่งตัดสินใจ ถามว่าตัดสินใจถูกมั้ย คือมันถูกต้อง ณ เวลานั้น เพื่อไม่ให้คนเดือดร้อนกับเราไปด้วย แต่ถามว่า ณ เวลานี้เสียใจมั้ย ไม่เสียใจ ออกดีแล้ว ทุกคนสบายใจ

เห็นว่าออกมาพร้อมรับงานแสดง?

แล้วก็เรานอนยาวมาจะปีนึงแล้ว มันอาจจะไม่ถูกจังหวะมั้ง ผมเชื่อว่านักแสดงหลายๆ ก็คงเป็น ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก

แล้วตลอดทั้งปีทำอะไร

ก็เข้าตรวจ

มีเข้าไปหาผู้ใหญ่ไหม ไปบอกว่าตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะรับงาน

ไม่ใช่นิสัย ไม่ไป ไม่เคยทำแบบนั้น

แล้ว 10 เดือนที่ผ่านมา เงินมาจากไหน

มันก็มีบ้าง ไม่ใช่ไม่มีเลย เงินเก็บมันก็มี แค่มันไม่มีละครไง แต่ว่ามีงานอื่นก็มีบ้าง

แสดงว่าตอนนี้สามารถรับงานได้ทุกค่าย

ใช่ครับ ทุกที่

คิดไหมว่าอยากกลับไปเป็นหมอ ไปรับราชการ

ไม่ แต่ยังเป็นหมออยู่นะ ยังทำอยู่ แต่ว่าไม่ได้รับเงินเดือนราชการ

ณ ตอนนี้มีคนคุยไหม

ไม่มีครับ โสดครับ ถามว่าอยากมีมั้ย ใครจะอยากโสด แต่ถ้ามันไม่มี มันก็ไม่มี แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีนะ มีแล้วมันมีปัญหา พอมันมีปัญหาปุ๊บเราก็จะรู้แล้วว่ามันยากขึ้นกับการที่เราจะคบใคร คือมันจะต้องมีเรื่องของเหตุผลการพูดคุย การต้องเข้ากันได้จริงๆ นะ ความรักอย่างเดียวอยู่กันไม่รอดจริงๆ

โสดมานานหรือยัง

นานแล้วครับ หลายปีครับ ไม่เคยนับเลย

เคยมีแฟนมาทั้งหมดกี่คน

3 มั้ง

แต่พอเราโสดปุ๊บคนก็เลยมองว่าไม่แมนหรือเปล่า

ตั้งแต่ 11 ปีในวงการ ไม่แมนตั้งแต่ปีแรกอยู่แล้ว เขาก็มองแบบนั้น มีข่าวกับดาราในช่องเป็นผัว เป็นเมียกันหมดแล้ว

ทำไมคนถึงมองเป็นแบบนั้น

คนก็มองไป อย่างเวลาสมมุติว่าคือคนที่ไม่เคยเจอกันเลยด้วยซ้ำ หมายถึงอยู่ในช่องด้วยกัน แต่ไม่เคยเจอหน้ากันยังเป็นข่าวกันเลย แล้วพอนักข่าวมาถามผมก็ทำหน้างง ช่วงแรกๆ ที่เราเพิ่งเข้าวงการเราก็จะตกใจ มันใหม่มาก แล้วข่าวแรกที่เป็นมันไม่ได้เป็นกับดารานะ เป็นกับผู้จัดการดารา ซึ่งผมก็ไม่รู้จักด้วย ข่าวแรกมันทำให้เราตกใจมาก เกิดอะไรขึ้น

สเป๊กของหมอเป็นยังไง

ไม่มีแล้ว คือถ้าจะคบกันจริงๆ สเป๊กมันส่วนน้อยเลยนะ คือต้องเป็นคนที่พูดรู้เรื่อง เข้ากับเรา เข้ากับครอบครัวเราได้จริงๆ ไม่งั้นมันอยู่ด้วยกันไม่ได้

อยากให้ยืนยันว่าคุณอยู่ฝั่งหญิง หรือฝั่งชาย

ตอบยาก คือถ้าถามว่ารอใครมั้ย ไม่รอแล้ว มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี คือผมอาจจะไปอีกทางซะเยอะ หมายถึงว่าเข้าไปทำบุญ ไปวัด เจอหลวงพ่อ หลวงปู่เยอะมาก แล้วก็รู้สึกว่าไม่มีก็คือเรื่องปกติ

คลิป

ที่มา คุยแซ่บShow

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ