สถานการณ์น้ำวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่านจุดวัด C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,848 ลบ.ม/วินาที เมื่อวาน 1,799 ลบ.ม/วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้น 49 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำที่จุด C35 บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่ง 4.35 ม. ระดับน้ำ 4.36 ม. เมื่อวาน 4.25 ม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 11 ซม.

ปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลผ่านสถานีวัดระดับน้ำ S28 อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 307 ลบ.ม/วินาที เมื่อวาน 338 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำระบายลดลง 31 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำที่ สถานี S.26 (เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 513 ลบ.ม./วินาที ระดับตลิ่ง 8 ม. ระดับน้ำ 5.98 ม. เมื่อวาน 5.98 ม. ระดับน้ำคงที่ สถานี S.5 (สะพานปรีดี-ธำรง) อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรียุธยา ระดับตลิ่ง 4.70 ม. ระดับน้ำ 3.51 ม. เมื่อวาน 3.42 ม. ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 ซม.

โดยช่วงเช้าวันที่ 14 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนประชาชน อาศัยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่จำนวนมาก พบว่าหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนอยู่แล้ว ตอนนี้ 1 - 2 เมตร ในบางจุด

ตอนนี้มีปริมาณสูงขึ้น และสูงขึ้นเร็วกว่าตอนแรกที่ลดลงไปทำให้เป็นการถูกน้ำท่วมระลอกที่ 2 เพียงคืนเดียวน้ำขึ้นสูงกว่า 30 เซนติเมตรเท่ากับที่ลงไปในช่วง 2 - 3 วันก่อนหน้านี้ โดยชาวบ้านในพื้นที่ถูกน้ำท่วมมานานกว่า 1 เดือน ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องน้ำมาจอดไว้บนถนน