วันที่ 11 ก.ย.65 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม เข้าจับ น.ส.วรรณนิภา อายุ 25 ปี หลังเข้ามาซื้อหมูที่ร้านหมูรำพึง สาขาตลาดเอเวอรี่ติง จิงเกิลเบลส์ เขตสายไหม สาเหตุที่จับ

เพราะพบว่า เธอนำสลิปที่มีการปรับแต่งชื่อผู้รับโอนเงินมาแสดง ซึ่งก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดย น.ส.วรรณนิภา จะสั่งหมูที่ร้าน ทีละหลาย ๆ กิโลกรัม อย่างครั้งล่าสุดที่จับได้ สั่งหมูน้ำหนักรวมประมาณ 100 กิโลกรัม มูลค่า 18,868 บาท

นายเฉลิมพล รัตนพิทักษ์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านหมูรำพึง เล่าว่า ที่ร้านจะมีการตรวจสอบบัญชีรายรับ ของสาขาตลาดเอเวอรี่ติง จิงเกิลเบลส์ สายไหม เนื่องจากพบว่าที่สาขานี้ ขายขาดทุนมาโดยตลอด ซึ่งจากการตรวจสอบสลิปย้อนหลัง

พบว่าลูกค้ารายนี้เข้ามาซื้อของเป็นประจำ ทุกครั้งจะโอนเงินผ่านมือถือ แล้วส่งสลิปให้กับทางร้าน ซึ่งในสลิปก็ปรากฏผู้รับเงินเป็นชื่อร้าน แต่เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเช็กสลิป กลับเป็นชื่อของลูกค้าเอง จึงเชื่อว่าลูกค้ารายนี้ ทำสลิปปลอมขึ้นมา

หลังจากนั้น ทางร้านก็ได้ทำการตรวจสอบย้อนหลัง พบว่ามีการปรับแต่งสลิปมาซื้อของตั้งแต่ เดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยเดือนเมษายน 18 รายการ, พฤษภาคม 52 รายการ, มิถุนายน 29 รายการ, กรกฎาคม 44 รายการ, สิงหาคม 51 รายการ, กันยายน 14 รายการ รวม 208 รายการ มูลค่ากว่า 1,615,857 บาท

เจ้าของร้าน จึงร่วมกับเพจสายไหมต้องรอด และ ตำรวจ สน.สายไหม ซ้อนแผนเข้าจับขณะ น.ส.วรรณนิภา เข้ามารับหมูที่สั่งไว้ทางไลน์ เบื้องต้น ผู้ต้องหา ยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้าทำทีมาซื้อของจ่ายเงินจริงเพื่อให้ได้สลิปของจริง

จากนั้นเมื่อมาซื้อครั้งต่อไป ก็ปรับแต่งสลิปโดยตัดชื่อร้านมาแปะสลิปที่ตนโอนเงินตามจำนวนสินค้าที่ซื้อของ ก่อนส่งให้ทางร้าน และทำเพียงคนเดียว ส่วนคนที่มาด้วยทั้ง พี่ แม่ และเพื่อน ไม่รู้เห็นกับการก่อเหตุ เมื่อได้ของมาก็จะนำไปขายคนรู้จักในราคากิโลละ 200 บาท เงินที่ได้มาก็นำมาเลี้ยงดูครอบครัว