เอาจริง ขี่รถบนทางเท้า ปรับ 1,000 เริ่ม 1 ส.ค 62
นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ เปิดเผยว่า ตามที่ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้มีนโยบายเข้มงวดกวดขันการกระทำผิดบนทางเท้า โดยเฉพาะการขับขี่และการจอดรถบนทางเท้า ซึ่งกีดขวางและสร้างผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้ทางสัญจร ที่ผ่านมากำหนดอัตราค่าปรับ 1,000 บาท จากที่กฎหมายให้ปรับได้ไม่เกิน 5,000 บาท แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด จึงได้มีนโยบายเพิ่มโทษปรับเป็น 2,000 บาท โดยจะเริ่มจับปรับในอัตราใหม่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สำนักเทศกิจได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขต กวดขันผู้ฝ่าฝืนขับขี่หรือจอดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยได้มีการตั้งจุดจับปรับผู้ที่ฝ่าฝืนบนทางเท้าในถนนสายต่างๆ รวม 233 จุด ครอบคลุมทั้งพื้นที่ ในทุกถนนของเขต รวมทั้งมีนโยบายที่จะติดตั้งกล้อง CCTV ในถนนที่มีการกระทำความผิดจอดหรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าเป็นจำนวนมาก
โดยนำร่อง 2 ถนน คือ ถนนสุขุมวิทและถนนพหลโยธิน และบางจุดที่มีกล้อง CCTV จะดำเนินการปรับมุมกล้องให้จับภาพบนทางเท้าเป็นบางส่วน โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และปัญหา คาดว่าจะช่วยลดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนผู้แจ้งเบาะแสและผู้กระทำความผิดได้ โดยทั้งกรณีการจับโดยตรวจสอบข้อมูลจากกล้องและจับโดยพบตัว จะปรับเท่ากันทุกกรณีคือ 2,000 บาท
นอกจากนี้ กทม.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ในการขอใช้ข้อมูลทางทะเบียนรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ให้ทราบถึงเจ้าของ/ผู้ครอบครอง ที่กระทำความผิด จอดหรือขับขี่ รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเชื่อมโยงกับกล้อง CCTV และประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกองบังคับการตำรวจจราจร สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ กรมการขนส่งทางบก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขต ในการบูรณาการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดที่ฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งมีการดำเนินการร่วมกันไปแล้ว อาทิ บริเวณถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร ถนนพระราม 4 เขตคลองเตย เป็นต้น
สำหรับการเพิ่มอัตราค่าปรับนี้ กทม.ยังคงเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูลการกระทำความผิดได้ ซึ่งหากสามารถนำไปสู่การจับปรับผู้กระทำความผิดจะได้รับเงินรางวัล 50 เปอร์เซ็นต์ โดยค่าปรับ 2,000 บาท ก็จะได้รับส่วนแบ่งรางวัลนำจับ 1,000 บาท โดยส่งภาพถ่าย พร้อมระบุพื้นที่ที่พบการทำผิดและรายละเอียดต่างๆ มาได้ที่สำนักเทศกิจ ซึ่ง กทม.จะนำไปตรวจสอบทะเบียนรถ และดำเนินการปรับต่อไป
ที่มา thaiquote