กอนช. เตือน 6 จังหวัด เสี่ยงน้ำหลาก-ท่วมฉับพลัน 26-31 ส.ค.นี้

กอนช. เตือน 6 จังหวัด เสี่ยงน้ำหลาก-ท่วมฉับพลัน 26-31 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า กอนช.ประกาศ ฉบับที่ 33/2565 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนี้ ตามที่ กอนช. ได้มีประกาศ ฉบับที่ 31/2565 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

ในช่วงวันที่ 22-25 สิงหาคม 2565 กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ พบว่ามีฝนตกหนักในลุ่มน้ำชี เมื่อวันที่ 19-22 สิงหาคม 2565 และได้ประเมินคาดการณ์สถานการณ์น้ำในลำน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

และจะมีระดับน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำชี ไหลหลากเข้าท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำเกษตรกรรม พื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และพื้นที่ชุมชน ประมาณ 0.30-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 26-31 สิงหาคมนี้

นายชยันต์ กล่าวต่อว่าขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ดังนี้ 1.จังหวัดมหาสารคาม บริเวณอำเภอกันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม 2.กาฬสินธุ์ บริเวณอำเภอกมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย และร่องคำ

3.ร้อยเอ็ด บริเวณอำเภอจังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เสลภูมิ และอาจสามารถ 4.ยโสธร บริเวณอำเภอค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร 5.ศรีสะเกษ บริเวณอำเภอกันทรารมย์ และยางชุมน้อย และ 6.อุบลราชธานี บริเวณอำเภอเขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้ 1.ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ

2.ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ เพื่อรองรับน้ำหลาก จากพื้นที่ตอนบน ลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัย รวมทั้งจัดจราจรน้ำในแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะไหลหลากมายังบริเวณแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี

3.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที และ 4.ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ