หญิงปลอมใบมรณบัตร อ้างสามีเสียชีวิต เบิกเงินฌาปนกิจ

หญิงปลอมใบมรณบัตร อ้างสามีเสียชีวิต เบิกเงินฌาปนกิจ

วันที่ 3 ก.ค.65 มีรายงานว่านายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอสันทราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก อ.สันทราย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง ต.แม่แฝก อ.สันทราย โดยมีนายจิรเดช สุริยา ผู้ใหญ่บ้านพระธาตุ ต.แม่แฝก อ.สันทราย, นายประหยัด ปาวิน ผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิ์ทอง ต.แม่แฝก อ.สันทราย และนายวันชัย ไลย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย ได้ให้ข้อมูลกับปลัด อ.สันทราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก

หลังจากนายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่แฝก ขอให้ตรวจสอบใบมรณะบัตรที่สมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์หลายแห่งได้รับมาทางกลุ่มไลน์ ซึ่งสมาชิกกลุ่มรายหนึ่งระบุว่าสามี ของนางได้เสียชีวิต และขอเบิกเงินฌาปนกิจสงเคราะห์

จากการสังเกตเบื้องต้น ใบมรณะบัตรฉบับนี้ที่ส่งมาทางไลน์กลุ่มภาพค่อนข้างเบลอ ทางชาวบ้านจึงส่งให้ที่ว่าการอำเภอสันทรายตรวจสอบว่า ผู้ที่อ้างว่าเสียชีวิตนั้นเป็นความจริงหรือไม่ ต่อมานายอำเภอสันทรายได้มอบหมายให้นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรแล้ว ไม่พบว่ามีการแจ้งตาย นอกจากการตรวจสอบพบว่าใบมรณะบัตรฉบับดังกล่าว คนส่งมีความตั้งใจถ่ายรูปส่งมาให้ลักษณะภาพไม่ชัดเนื่องจากต้องการปกปิดข้อความบางจุด นอกจากนี้ยังพบพิรุธหลายจุด เช่นข้อความระบุว่าผู้เสียเสียชีวิตที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี

แต่ใบมรณะบัตรกลับระบุว่า ออกโดยสำนักทะเบียน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะระบุว่าออกโดยสำนักทะเบียนเทศบาลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ไม่ระบุวันที่แจ้งตาย ไม่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่ ที่รับแจ้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นใบมรณะบัตรฉบับนี้ปลอมอย่างแน่นอน

นอกจากนี้จากการสอบปากคำ ผู้นำชุมชน ทั้ง 3 หมู่บ้านรวมถึง นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง พบว่าชื่อผู้เสียชีวิต เป็นสมาชิกกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ 3 แห่งประกอบด้วย สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก , สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านศรีงาม 1 และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านศรีงาม 2

โดยระบุชื่อของภรรยาและบุตร เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งหากมีการอนุมัติการเบิกจ่ายจะมียอดเงิน ประมาณ 2 แสนบาท จึงเชื่อได้ว่ามีการปลอมแปลงเพื่อหวังเงินปันผลจากกลุ่มฌาปนกิจ ทั้ง 3 แห่ง

ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่ามีการส่งใบมรณะบัตรปลอมฉบับนี้ขอเบิกจ่ายเงินปันผลจากกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ กลุ่มอื่นหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

ด้านนายวันชัย ไลย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สมาคมฌาปนกิจฯ ได้เห็นใบมรณะบัตรฉบับนี้ในกลุ่มไลน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ออกเก็บเงินตามบ้านจากสมาชิกบางส่วนไปแล้ว หลังจากทราบเรื่องตนได้สั่งให้ระงับเก็บเงินและได้มีการทยอย คืนเงินให้สมาชิกกลุ่มบางส่วนไปแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้อนุโลม ให้สมาชิกบางส่วนที่อาจจะไปทำงานอยู่ต่างถิ่นส่งเอกสารการเสียชีวิตของสมาชิก ทางกลุ่มไลน์เพื่อประหยัดเวลาในการดำเนินการเบิกเงินที่ทางสมาคมฯ ได้เตรียมเงินสดไว้ เนื่องจากสมาชิกอาจจะมีความจำเป็นในการขอเบิกจ่ายเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายในการพิธีทำบุญ

ซึ่งหลังจากนี้ได้วางมาตรการใหม่ หากสมาชิกที่อยู่ในหมู่บ้านให้นำเอกสารฉบับจริงมามอบให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนสมาชิกที่อยู่ต่างถิ่นให้อนุโลมส่งเอกสารฉบับจริงทางกลุ่มไลน์ได้ แต่ต้องเป็นรูปภาพที่ชัดเจนและมีหลักฐานอื่นเช่นรูปที่จัดงาน ซึ่งอาจจะทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้าลงไปอีก

ขณะปลัดอำเภอสันทรายกล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของนายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านร่มหลวงที่ระบุว่า ได้มีการเก็บเงินจากสมาชิกบางส่วนไปแล้ว และได้มีการคืนเงินให้สมาชิกกลุ่มบางส่วน ซึ่งถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ทำให้เกิดความเสียหายกับกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ 3 แห่ง รวมถึงสมาชิกกลุ่มฯ ที่จ่ายเงินไปแล้ว

และผู้ที่ถูกใช้ชื่อแอบอ้างในใบมรณะบัตรปลอม สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แม่แฝกต่อไป

ขณะที่นายประหยัด ปาวิน ผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิทอง ต.แม่แฝก เปิดเผยว่า หลังจากทราบข้อมูลว่าญาติได้มีการแจ้งตายให้กับสามี ขณะนั้นตนกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไปเปิดประตูให้หอประชุมในหมู่บ้านเพื่อนัดตรวจสุขภาพชาวบ้านขณะนั้นได้เห็นผู้ถูกอ้างว่าเสียชีวิต สวมหมวกกันน็อกขี่รถรถจักรยานยนต์สวนมาและมุ่งหน้าไปทางถนนใหญ่ ตอนนั้นตนก็ยังงงๆ อยู่ว่าคนตายมาขับรถได้ยังไง แต่ก็ไม่ทันได้สอบถาม

ต่อมาปลัดอำเภอสันทรายได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ที่หมู่บ้านศรีงามพัฒนา ต.แม่แฝก อ.สันทราย แต่ไม่พบตัวทั้งสองคน ซึ่งชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า ทั้งสองได้ขายบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่นนานแล้วแต่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรบ้านหลังดังกล่าวอยู่ และสองยังเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ในหมู่บ้านอยู่ ซึ่งสามีเป็นอดีตครู และทั้งสองมีปัญหาเรื่องการเงินจึงขายบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่น

ก่อนทราบข่าวมาว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่ใบมรณะบัตรฉบับนี้ออกมามีกระแสข่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้ฆ่าตัวตายตามสามีไป แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็จะไปตรวจสอบจากหลักฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ว่าทั้งสองยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ