ความคืบหน้ากรณีที่มีการร้องเรียนว่าผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ด้วยการขับไล่ลูกบ้านซึ่งเป็นครอบครัวพิ-การและยากไร้ รวม 4 ชีวิต ประกอบด้วย นางไพฑูรย์ อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ , น.ส.วันวิสา อายุ 33 ปี ลูกสาวคนโต ซึ่งบกพร่องส-มองไม่ปกติ และอ่อนแรง , ด.ช.วันเฉลิม อายุ 12 ปี ลูกชายคนเล็ก ซึ่งมีความบกพร่องทางส-มอง และ ด.ช.สงกรานต์ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ น.ส.วันวิสา

ออกจากหมู่บ้านตอนกลางคืน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าไม่พอใจที่น้องอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางส-มอง ชอบเข้าไปลักของในบ้านผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงบ้านของชาวบ้านหลายครั้งด้วย

กระทั่งต่อมา ผญบ.ที่ถูกกล่าวหา ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ขับไล่ครอบครัวของนางไพฑูรย์ ออกจากหมู่บ้านตามที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา น่าจะเป็นการสร้างเรื่องเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่างมากกว่า ทั้งอ้างว่าที่ผ่านมาในฐานะเป็นผู้นำหมู่บ้านก็เคยดูแลครอบครัวนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปขับไล่

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามญาติ และชาวบ้านในหมู่บ้านอีกครั้ง โดยนางทองคำ แสนจันทร์ อายุ 53 ปี น้องสาว ป้าไพฑูรย์ บอกว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์วันที่ผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาขับไล่พี่สาวและลูกหลานของพี่สาวซึ่งสภาพไม่ปกติออกจากหมู่บ้านจริง โดยผู้ใหญ่บอกให้พี่สาวพาลูกหลานไปอยู่ที่อื่น เห็นแล้วก็สงสารก็พยายามยกมือไหว้ขอร้องผู้ใหญ่บ้าน

ว่าอย่าขับไล่พี่สาวและหลานเลยเพราะค่ำมืดแล้วไม่รู้จะพากันไปอยู่ที่ไหน รอตอนเช้าค่อยพูดคุยกันใหม่ก็ได้ แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่เห็นใจยืนกรานขับไล่อย่างเดียว จนพี่สาวและลูกหลานทั้ง 4 คนต้องเก็บของใส่รถเข็นออกจากหมู่บ้าน เพราะดูท่าทางผู้ใหญ่โมโหมากที่เด็กไปข-โมยของ ซึ่งตนยอมรับว่าลูกชายของพี่สาวอายุ 12 ปี ชอบข-โมยของชาวบ้านและบ้านผู้ใหญ่จริง แต่ก็เป็นของเล็กๆ น้อยๆ

เช่น สมุดวาดรูป ของเล่น และของกินบ้าง เพราะฐานะยากจนกินอยู่อดๆ อยากๆ กระต๊อบที่อยู่ก็เป็นญาติให้อาศัยเท่านั้น ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีห้องน้ำ ต้องอาบน้ำในตุ่มกลางแจ้ง จะเข้าห้องน้ำก็ต้องไปขออาศัยเข้าห้องน้ำญาติ

ขณะที่นายรด เพื่อนบ้าน ก็บอกตรงกันว่า วันนั้นได้ยินเสียงผู้ใหญ่มาขับไล่ครอบครัวดังกล่าวจริง และท่าทางผู้ใหญ่ก็คล้ายกับเม-าด้วยเพราะตะโกนเสียงดังไม่ฟังใครเลย ส่วนสาเหตุที่มาไล่ก็อ้างว่าเด็กไปข-โมยของในบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใหญ่ก็ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่การมาไล่ลูกบ้านที่มีลูกหลานพิ-การแบบนี้มันก็ไม่สมควร ส่วนตัวไม่ได้โกรธผู้ใหญ่แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำ หากเด็กข-โมยของจริงการเป็นผู้นำก็น่าจะมีวิธีจัดการที่ดีกว่านี้

ด้านวรรณา ดวงมาลา รองนายก อบต. บอกว่า หลังจากเป็นข่าวก็ได้มีหลายหน่วยงานลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นก็ได้นำสิ่งของมามอบบรรเทาความเดือดร้อนก่อน

จากนั้นก็จะจัดหาที่อยู่ใหม่ให้กับครอบครัวดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นอีก และจะได้ทำเรื่องบัตรคนพิ-การให้กับสองพี่น้องเพื่อให้ได้รับการสงเคราะห์ช่วยเหลือตามสิทธิ ส่วนกรณีที่ ผญบ.มาขับไล่ครอบครัวดังกล่าวนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาดำเนินการ เพราะส่วนตัวก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย