อิงฟ้า ย้อนเล่ามรสุมชีวิตสุดลำบาก ไม่มีเงินซื้อข้าว

อิงฟ้า ย้อนเล่ามรสุมชีวิตสุดลำบาก ไม่มีเงินซื้อข้าว

หลายคนคงรู้จักกันดี สำหรับ อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 เข้าของแฮชแท็ก อิงฟ้ามหาชน ที่วันนี้พลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้รับการตอบรับจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตที่หลายคนยังไม่รู้

ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหน? หน้ามือเป็นหลังมือเลย จากคนที่ว่างงานมาเยอะในช่วง CV-19 ตอนนี้ก็กลายเป็นว่างานแน่นเลย (เรียกว่าแทบไม่ได้นอน?) นอนน้อย แต่นอนนะ

ตอนนี้มี พ่อยก-แม่ยก สายเปย์มาก ได้อะไรมาบ้าง? หลักๆ ก็เป็นพวงมาลัยที่เราออกคอนเสิร์ต มีทองคำ แล้วก็ได้ที่ดินด้วย (ถ้าตีเป็นมูลค่าของที่ได้ตอนนี้เท่าไหร่?) โอ้ ถ้าคร่าวๆ ก็น่าจะประมาณหลักล้านค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไงที่มีคนมาเปย์ให้เยอะขนาดนี้ มันเกินความคาดหมายมากๆ หนูไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้ได้เหมือนกัน ไม่คิดว่าคนที่เขารัก เขาจะซัพพอร์ตเรามากขนาดนี้ มันเยอะมากจริงๆ

กว่าจะประสบความสำเร็จทุกวันนี้ ย้อนไปช่วงประกวด มีช่วงแอบท้อเยอะเลย? เยอะมากค่ะ เพราะว่าการเก็บตัวมันค่อนข้างที่จะเหนื่อย ช่วงระยะเวลาการเก็บตัวมันก็จะมีกลุ่มแฟนนางงามที่เขาจะคอยแบบนู่นนี่นั่น ซึ่งนางงามทุกคนก็จะรับรู้ตลอด บางทีเราจะเจอกระแสดราม่ามันก็จะทำให้เราเหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ช่วงที่เราท้อก็มี มีหลายคนที่เป็นเหมือนกัน

คุ้มค่าไหมกับการที่น้องต้องเหนื่อยแล้วมาถึงจุดนี้? คุ้ม หายเหนื่อยเลยค่ะ วันที่ได้มงกุฎคือไม่เล่นโซเชียลอะไรเลย นอน อิ่มแล้วก็หลับเลย หายเหนื่อย

(เห็นว่าครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานค่อนข้างเยอะ?) เหมือนโดนคำสาป อยู่ที่ไหนไม่เคยเกิน 3 ปี ต้องย้ายตลอด ตั้งแต่เด็กอยู่อุทัย ย้ายไปศรีสะเกษ แล้วกลับมาอุทัย อุทัยกลับมาสุพรรณ สุพรรณไปราชบุรี ราชบุรีกลับมาอุทัย อุทัยกลับมากรุงเทพฯ ความที่พ่อหนูเป็นศิลปิน ถ้าอยู่ตรงนี้แล้วไม่โอเค ไม่รุ่ง เราย้ายกันดูไหม เพราะเราก็ไม่ได้มีสมบัติติดตัวอะไรกันอยู่แล้ว

เห็นบอกว่ามีช่วงที่ไม่มีเงินถึงขั้นไม่มีเงินซื้อข้าวกินเลย? มีค่ะ ตอนนั้นจำได้ขึ้นใจเลยอยู่ที่สุพรรณ มีข้าวแต่เราไม่มีเงินที่จะไปซื้อกับข้าวกิน เหมือนว่าเงินมันหมุนไม่ทัน เราก็เดินออกไปเด็ดผักบุ้งที่มันอยู่ตามคลอง เด็ดมาก็มาผัดกินกันในครอบครัว ตอนนั้นหนูไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไร เพราะว่าเรารู้ว่าถ้าแม่ทำกับข้าวนั่นคืออร่อยแล้ว

มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกถึงความลำบาก เพราะคุณพ่อไม่สบาย? เราไม่รู้มาก่อนเลย ด้วยความที่เรายากจนกันด้วย เวลาเป็นอะไรคุณพ่อก็จะไม่บอก กลัวว่าต้องไปรักษา ต้องเปลืองเงิน จะเป็นคนที่เก็บอาการเก่งมาก เ จนมีอยู่วันหนึ่งที่เขาเริ่มตัวเล็กลงๆ ครอบครัวก็เริ่มสังเกตว่าแปลกๆ เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว พอไปตรวจคุณหมอก็ถามว่าไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งมาตรวจนี่คือเข้าขั้นระยะที่4 แล้ว

ถ้าคุณพ่อดูอยู่ ณ ตอนนี้อยากบอกอะไร? อยากบอกว่าไม่มีอะไรต้องห่วง ตอนนี้สำเร็จทุกอย่างแล้ว ในเรื่องของคุณแม่ ครอบครัวตอนนี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว จริงๆ ก็คิดว่าเขาน่าจะรับรู้ได้ตลอดอยู่แล้ว

ขอบคุณ คุยแซ่บshow

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ