เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยถึงกรณีข่าว หลวงปู่แสง ญาณวโร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ถูกหมอปลา นำสื่อสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งติดตามเข้าตรวจสอบ จนมีข่าวทำนองว่า เป็นพระที่อาบัติ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องทำให้พระผู้ใหญ่เสียหาย

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตนรู้สึกทนไม่ไหวที่หลวงปู่แสง ซึ่งเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดยโสธร เป็นพระป่าสายหลวงปู่มั่นรูปสุดท้าย กลับต้องมาถูกหมอปลา กับสื่อบางแห่ง ทำให้เสื่อมเสีย ทำให้ฮือฮา ส่งเสียงหัวเราะท่าน

ทำให้ท่านเสื่อมเสีย ถูกลบหลู่ และจนได้รับการประสานจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งใน จ.ยโสธร ดังนั้นในวันที่ 15 พ.ค. นี้ เป็นวันวิสาขบูชา ตนจะเดินทางไปที่ อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เพื่อเข้าพบ และหารือปรึกษา และแต่งตั้งเป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หลวงปู่ท่านป่วย การป่วยไม่ถือว่าอาบัติ เพราะพระจะอาบัติหรือไม่ ดูที่เจตนา ดังนั้นถ้าพระไม่มีเจตนา ก็ไม่อาบัติ เมื่อมีลูกศิษย์ หรือญาติคนป่วย พาคนมากราบท่าน ตามที่ได้ยินได้ฟังมาว่าท่านจับต้องจุดใดแล้วหายจากอาการ ก็บอกต่อกันแล้วพากันมาเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฟังว่าหมอปลา เป็นตัวแทนภาคประชาชน เมื่อมีความสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบ ถือว่ามีอำนาจโดยชอบธรรมหรือไม่ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า มีอำนาจอะไรมาตรวจสอบ

รักษาศีลห้าครบหรือยัง มาตรวจสอบท่าน ถ้าสงสัยอะไรก็ไปแจ้งเจ้าพนักงานที่มีอำนาจเกี่ยวข้องมาตรวจสอบสิ เจ้าหน้าที่เขามี มันไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ แค่มีคลิปอินบ็อกซ์เข้ามาอันเดียวก็เชื่อแล้วหรือ

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เมื่อตนได้พบหลวงปู่แสงแล้ว และรับมอบอำนาจมาแล้ว ก็จะกำหนดประเด็นการดำเนินการ 3 ประเด็น จะดำเนินการกับหมอปลาและคณะหรือไม่ และหากมีผู้กล่าวหาหลวงปู่เป็นคดีความ จะเข้าช่วยเหลือแก้ต่างคดี ทั้งนี้จะขอปรึกษากับท่านก่อน ยังไม่สามารถตอบตอนนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ทนายอนันต์ชัย ถามหมอปลา มีอำนาจอะไรมาตรวจสอบหลวงปู่แสง รักษาศีล 5 ครบหรือยัง