หลานหลวงปู่แสง ฝากถึง หมอปลา

หลานหลวงปู่แสง ฝากถึง หมอปลา

วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางทักษิณา ดีหอม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่165/284 หมู่บ้านพิมานชล 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลานสาวแท้ ๆ ของหลวงปู่แสง ญาณวโร พระเกจิอีสาน (ลูกของน้องชายหลวงปู่แสง) โดยได้นำเอกสารการเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2562 มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นหลักฐานที่ญาติของหลวงปู่แสง นำมายืนยัน และไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะประพฤติตัวไม่เหมาะสม

นางทักษิณา กล่าวว่า หลังจากที่เห็นคลิปจากข่าวก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ดูคลิปอยู่หลายรอบ ตนเองเป็นลูกหลานติดตามหลวงปู่มาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่หลวงปู่บวชที่วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตอนอายุ 20 ปี จนตอนนี้อายุจะถึง 100 ปีแล้ว ความรู้สึกงงและสับสนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร

แต่เราก็เข้าใจอยู่แล้วเพราะหลวงปู่ไม่สบาย และก็มีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน และในสถานการณ์แบบนั้นผู้หญิงเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิป ยิ่งทำให้หดหู่ใจสงสารหลวงปู่

หลังมีคลิปดังกล่าวออกมาก็มีการพูดคุยกันกับญาติ ๆ หลายคนว่าเป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้คือช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนเกิดความไม่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่า หมอปลาและนักข่าวที่ไปมองว่าศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่ เหมือนเป็นการจาบจ้วงพระผู้ทรงศีล เพราะหลวงปู่บวชมากว่า 80 พรรษาแล้ว

อาการไม่สบายของหลวงปู่นั้น ทราบว่าเป็นมานานแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนที่หมอปลาพานักข่าวเข้าไป หลวงปู่ยังหลง ๆ ลืม ๆ ถามว่าพากันมาทำอะไร และนั่งนิ่งไม่ทำอะไร ส่วนตัวไม่ได้ไปบ่อย นาน ๆ จะไปกราบหลวงปู่

แต่เมื่อวานลูกหลานก็ไปอยู่หลายคน ตอนนี้มองว่า การจัดการระบบภายในวัดไม่ได้เรื่อง ควรจะมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าหาพระผู้ใหญ่ก็ได้ ควรจะมีขั้นมีตอนในการเข้าหาพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ แล้วที่หลวงปู่ทำลงไป ท่านไม่ได้รู้สึกตัวตามคลิปที่บอกว่าไปจับไนั้น ท่านไม่ได้รู้สึกและไม่รู้ว่าจับอะไร

และที่พระให้สัมภาษณ์นั้นก็เป็นการเวียนมาดูแล ไม่ได้มีการดูแลอย่างจริงจัง และมองว่าเรื่องนี้อาจจะมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ตอนนี้ลูกหลานและญาติคนอื่น ๆ ไม่สบายใจอย่างมาก ควรจะมีคนที่มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงไปตรงมา พระที่ดูแลยังไม่ได้ตั้งตัว เป็นการจู่โจมและตัดสินหลวงปู่ไปแล้ว และพยายามจี้ถามให้ตอบ ทั้งที่ควรจะศึกษาข้อมูลให้ดีกว่านี้

นางทักษิณา กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้มองการทำงานของหมอปลาว่าแย่กว่าที่ผ่านมา อยากจะถามหมอปลาว่าเคยศึกษาข้อมูลประวัติของหลวงปู่หรือยัง ว่าที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็มองว่าเหมือนการจัดฉากกันขึ้นมา เพราะตลอดชั่วอายุของหลวงปู่ไม่เคยทำสิ่งที่ไม่ดี

แต่ภาพที่เห็นเหมือนหลวงปู่เป็นตุ๊กตา ใครจับทำอะไรก็ทำหมดโดยไม่รู้สึกตัว อยากให้หมอปลาควรศึกษาให้ดี และยังใช้คำพูดกับหลวงปู่กับพระผู้ใหญ่ที่มีศีลโดยการไม่นอบน้อมเลยแม้แต่น้อย พูดข้ามหัวไปมา ในมุมมองไม่ได้โทษหลวงปู่แต่โทษการจัดการระบบในวัดที่ไม่มีการจัดการที่ดีกว่านี้ อีกทั้งผู้หญิงที่เข้าไปก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้แต่ลูกหลานที่เข้าไปประจำก็ไม่เคยขึ้นไปในจุดนั้น

อยากฝากในเรื่องนี้ให้หมอปลาได้ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตัดสินคน ๆ หนึ่งหรือพระรูปหนึ่งควรศึกษาประวัติให้ดี ควรคิดวิเคราะห์แยกแยะให้ดีว่ามันจะใช่หรือไม่ไม่ใช่เป็นศาลเตี้ยตัดสินคนเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ ในฐานะของญาติ รู้สึกกังวลใจและตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่า มีเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากศรัทธาญาติธรรมที่มีต่อหลวงปู่ ซึ่งผู้ดูแลควรรอบครอบ และเคร่งครัดในข้อปฏิบัติ มากกว่านี้ โดยเฉพาะการอนุญาตให้สตรีขึ้นไปใกล้ชิดหลวงปู่ และที่สำคัญโยมไม่มีหน้าที่ไปตัดสินพระให้สึกทุกอย่างมีขั้นมีตอน มีพระผู้ใหญ่ดูแล พระท่านมีศีลมีธรรมที่สูง ถามกลับไปว่าคนเรามีศีลขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ