ศิษย์ต่อคิวยาวรดน้ำมนต์ พระอาจารย์แจ้

ศิษย์ต่อคิวยาวรดน้ำมนต์ พระอาจารย์แจ้

กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล หลังมีคลิปประชาชนไปรดน้ำมนต์กับ พระอาจารย์แจ้ หรือ พระครูสมุห์ตะวัน อิทฺธิโชโต วัดน้อมประชาสรรค์ ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม และความปลอดภัยในสถานการณ์ CV-19 เนื่องจากมีประชาชนมาต่อคิวรดน้ำมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลตามความเชื่อจำนวนมาก

จากข้อมูล พระอาจารย์แจ้ หรือ พระครูสมุห์ตะวัน อิทฺธิโชโต ได้เล่าถึงเส้นทางชีวิตก่อนมาบวช ไว้ในช่องยูทูบ ถามมูตอบมู ว่า เคยเป็นฆราวาส อยู่พื้นที่วัดนี้มาก่อน ได้เรียนรู้วิชาอักขระจากครอบครัว สืบทอดต่อกันมา เดินทางไปศึกษากับพระอาจารย์หลายท่าน

ในช่วงแรกได้ตระเวนไปสักยันต์ในต่างประเทศ จนวัดน้อมประชาสรรค์ว่างเว้นเจ้าอาวาส เนื่องจากเจ้าอาวาสท่านเดิมมรณภาพ จากนั้นจึงตัดสินใจบวชเพื่อกลับมาบูรณะวัดบ้านเกิด ด้วยความศรัทธาของลูกศิษย์ ทำให้มีประชาชนมาต่อคิวรดน้ำมนต์ถึงวันละ 600-700 คิว

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ วัดน้อมประชาสรรค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ความเห็นว่า

พระอาจารย์แจ้ เป็นพระลูกวัด ที่มีพิธีกรรมรดน้ำมนต์จนเป็นกระแสในโลกโวเชียล ทำให้มีประชาชนมาจำนวนมาก โดยระหว่างลงพื้นที่มีประชาชนมารอทำพิธีราว 200 คน

จากจำนวนประชาชนที่มาเป็นจำนวนมาก ได้กำชับให้มีการแบ่งพื้นที่เพื่อคัดกรอง CV-19 กำหนดจุดนั่งรอ เว้นระยะห่างทางสังคม จำกัดจำนวนประชาชนรดน้ำมนต์ให้เหลือ 200 คนต่อวัน

ส่วนสตรีที่มารดน้ำมนต์ ต้องใส่ชุดเหมาะสม ไม่ใส่ชุดขาว หรือเสื้อแขนกุด ก่อนทำพิธีทุกครั้ง พระอาจารย์แจ้ ต้องให้หลักธรรมแก่ญาติโยม เพื่อไม่ให้เกิดความงมงาย และไม่ควรกำหนดจำนวนเงินทำบุญ แต่ควรให้ทำบุญตามความศรัทธา

หากมองถึงความเหมาะสม การรดน้ำมนต์เป็นพิธีกรรมปกติ แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการอาบน้ำมนต์ จึงต้องมีความสำรวม เบื้องต้นได้กำชับเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดเป็นกระแสงมงาย หรือเกิดกรณีที่เป็นการอวดอุตริ จนลืมแก่นแท้ของพุทธศาสนา

อย่างไรก็ตาม มีการต่อคิวยาวรดน้ำมนต์ พระอาจารย์แจ้ ด้านสำนักพุทธฯ บุกตรวจ หวั่นอวดอุตริ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ