ทนายตั้ม ย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์ล่าสุดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ว่าถ้าใครมาขอให้ผมช่วยทำคดีอะไร แล้วผมขออนุญาตนำลงเรื่องเพจแล้วเป็นคดีดังขึ้นมา อยู่ดีๆมาขอให้ลบ หรือดัดแปลงข้อมูลเพื่อเอาตัวรอด
ผมไม่ทำให้นะครับ เพจผมเน้นเรื่องจริง และขออนุญาตก่อนเผยแพร่เสมอ จะอยู่ดีๆมากลัว มาขอลบ บอกเลยผมไม่ทำให้ ตัวผมเองก็เสี่ยงเปิดหน้าสู้ มีเครดิต มีความน่าเชื่อถือต้องรักษา ถ้าใจไม่สู้จริง อย่ามาขอความช่วยเหลือจากผม
โดยทนายตั้มชี้แจงว่าจุดเริ่มต้นของโพสต์ดังกล่าวนี้ คือมีนักข่าวช่องหนึ่งไปสัมภาษณ์คุณแม่ของผู้เสียหาย หลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จแล้ว ได้มีการนำเสนอข่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงและพูดยุยงทำให้คุณแม่รู้สึกไม่ดีกับทนายตั้ม
สำหรับประเด็นภาพแช็ตสนทนาที่ออกมาทนายตั้มชี้แจงว่าเป็นการสนทนาระหว่างคุณแม่ของผู้เสียหายและคนสนิทที่รู้จักกับทนายตั้ม เลยได้ส่งแชทดังกล่าวให้ทนายตั้มดูจึงได้ทราบความจริง
ส่วนประเด็นถูกขู่หรือไม่เพราะเปิดหน้าชนขนาดนี้ ทนายตั้มแจงว่าต้องพาครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศก่อน เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่และคิดว่าถ้าคนจะทำหรือขู่เขาคงไม่ธรรมดาแน่นอน จึงอยากให้ผู้เสียหายทุกคนยังคิดถึงความยุติธรรมของกฎหมายและฝากถึงผู้ใหญ่ที่มีอำนาจว่าหากทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ส่วนผู้เสียหายที่มีมาเพิ่มคือเป็นหญิงชาวใต้เหตุเกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้วซึ่งอายุในขณะนั้นประมาณ 22 ปีในปัจจุบันหญิงสาวคนนี้อายุ 25 ปี ซึ่งในวันจันทร์นี้คาดว่าจะมีการเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินีโดยทนายตั้มระบุว่าหากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็จะทำให้ตำรวจมีพยานหลักฐานเพิ่มและทำงานง่ายขึ้น ยืนยันผู้ต้องหาหลุดยากเพราะมีผู้เสียหายหลายคน
ด้านตำรวจที่จะออกหมายจับปริญญ์เพิ่มสัปดาห์หน้า ทนายตั้มคาดว่ามี 3 ข้อหา เนื่องจากเหยื่อเป็นเด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี ส่วนในช่วงบ่ายของวันนี้ทาง ผกก.สน.ลุมพินีจะได้เข้ามาสอบปากคำทนายตั้มเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม ทนายตั้ม จ่อพาครอบครัวย้ายไปอยู่ต่างประเทศ หลังเปิดหน้าชนคดีนี้เต็มที่
ขอบคุณ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ