ตร.ภาค 4 รับเป็นเรื่องเข้าใจผิด กรณีดราม่ากินกาแฟแล้วไม่ยอมจ่าย

ตร.ภาค 4 รับเป็นเรื่องเข้าใจผิด กรณีดราม่ากินกาแฟแล้วไม่ยอมจ่าย

หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยในคลิปวิดีโอปรากฏภาพกลุ่มบุคคลเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน รวม 3 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการหนึ่ง

ทำทีเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและขนมภายในร้านมูลค่ากว่า 200 บาท แล้วไม่จ่ายเงิน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่คลิปดังหล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 4

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่ากลุ่มบุคคลตามที่ปรากฏในคลิป คือ พันตำรวจโทวทัญญู ขาวไชยมหา รองผู้กำกับการสืบสวน บก.สส.ภาค 4 จ.ส.ต.ชยณัฐ และกาสินธ์ และ ด.ต.หญิงรัตติยา มหาสาน สังกัด บก.สส.ภาค 4 โดยให้ข้อมูลว่า

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 ได้มีภารกิจไปร่วมงานพิธี ตำรวจรุ่นน้องที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แต่เนื่องจากไปถึงก่อนเวลาจึงไปนั่งดื่มเครื่องดื่มและอาหารที่ร้านกาแฟ เพื่อรอเวลา ทันทีที่ไปถึง ด.ต.หญิง รัตติยา ได้เดินไปสั่งเครื่องดื่มก่อน โดยยังไม่จ่ายเงินเพราะรอจ่ายพร้อมกัน จากนั้น จ.ส.ต.ชยณัฐ ได้เดินตามไปสั่งเครื่องดื่มอีกครั้ง

และระหว่างนั้นต่างคนต่างพลัดกันไปสั่งเครื่องดื่มและอาหาร พร้อมกับเดินไปเข้าห้องน้ำ จึงทำให้คิดว่ามีคนไปจ่ายค่าเครื่องดื่มและอาหารเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงพากันเดินออกจากร้าน ก่อนจะมารู้ตัวอีกที ก็หลังจากที่ทางร้านได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าวก็ได้ติดต่อไปทางร้านเพื่อขอจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมกับขอโทษเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทางด้าน พันตำรวจโทวทัญญู กล่าวอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดยืนยันไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายค่าอาหารทางร้านกาแฟแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเข้าใจผิดกันเองในกลุ่มที่คิดว่าต่างคนต่างจ่ายค่าอาหาร และเครื่องดื่มแล้ว จึงเดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้สอบถามกัน

ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และในวันที่ไปใช้บริการที่ร้านก็ได้ถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว ซึ่งแสดงถึงเจตนาว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่จ่ายค่าบริการ และหลังจากเกิดเรื่องก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทางร้านเรียงร้อยแล้ว ซึ่งต่ายฝ่ายต่างไม่ติดใจและยอมรับว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้

เรียบเรียง มุมข่าว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ