หนูน้อยชุดโกโกวาวิ่งตามรถ บอกยาย ปู่มาหา ชวนไปอยู่ด้วย

หนูน้อยชุดโกโกวาวิ่งตามรถ บอกยาย ปู่มาหา ชวนไปอยู่ด้วย

วันนี้ (19 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า คุณ อ้น ได้ถ่ายคลิปวิดีโอลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะที่ขับรถไปพบกับเด็กคนหนึ่งเดินอยู่คนเดียวบนถนนกลางดึก ทั้งที่มีฝนโปรยปราย โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ขณะที่รถของผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ไปพบกับหนูน้อยนั้น

ภาพจาก Facebook คุณ อ้น

ภาพจาก Facebook คุณ อ้น

ทางด้านหนูน้อยก็พยายามวิ่งตามรถ เพราะถนนค่อนข้างมืดมาก ๆ แต่เนื่องจากผู้โพสต์เกรงว่าจะเป็นมิจฉาชีพ จึงพยายามถอยรถหนีออกมา แต่หนูน้อยก็ยังพยายามวิ่งตามมาไม่หยุด จนทันรถ และบอกให้คนในรถช่วยเหลือ พร้อมบอกว่า ช่วยหนูด้วย หนูหลงทาง ก่อนผู้โพสต์ เฟซบุ๊กจะโทรตามเจ้าหน้าที่มาช่วยนำตัวไปส่งให้กับครอบครัว

ภาพจาก Facebook คุณ อ้น

ภาพจาก Facebook คุณ อ้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของหนูน้อยคนดังกล่าว เด็กหญิงปิยมาศ สุขจิตร อายุ 5 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ บ.แคนเกิด ม.14 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ทางด้าน นางขอบฟ้า ทศพร ผู้เป็นยาย เล่าว่า ช่วงเวลาที่รู้ว่าหลานไม่อยู่ เวลาประมาณ 18.30 น. ตนก็พยายามตามหาทั้งหมู่บ้าน บอกญาติพี่น้องทุกคนให้ช่วยออกตามหาเช่นกัน แต่ก็ไม่เจอ

จนได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน จนกระทั่งตนท้อ ได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ก็มีรถพาหลานมาส่ง ตนแปลกใจมาก ไม่คิดว่าหลานจะเดินไปไกลถึงบ้านหนองระหาร ซึ่งระยะทางไกลกว่า 1 กม. ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก สงสารหลานมาก อยากได้หลานกลับคืนมา เพราะตนเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก ส่วนพ่อแม่เขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

นางขอบฟ้า ทศพร ผู้เป็นยายของหนูน้อย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุหนึ่งวัน ได้ยินหลานบอกว่า ตอนที่เดินไปร้านค้าช่วงค่ำ ๆ มีปู่มาหา ปู่ชวนหนูไปอยู่ด้วย แต่ตนก็พยายามถามหลานว่า หนูเดินไปทำไม หลานก็ตอบกลับมาว่า เขาเป็นปู่ของหนู หนูมองไม่เห็นหน้า แต่หนูรู้ว่าเป็นปู่

ส่วนตัวตนก็เชื่อเรื่องแบบนี้ เพราะผู้เป็นปู่จากไปกว่า 1 ปีแล้วนั้น เป็นคนเลี้ยงช้าง มีความเชื่อเรื่องแบบนี้ เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องไหว้ตลอด ช่วงที่ผู้เป็นปู่นั้นจากไป หลานเพิ่งจะอายุได้เพียง 2 เดือน ปู่คงจะเป็นคนห่วงหลานคนนี้มาก ๆ ตนก็เลยคิดว่าปู่น่าจะคิดถึงหลานก็เลยมาหาหลาน

ภาพจาก Facebook คุณ อ้น

ขอบคุณภาพจาก Facebook คุณ อ้น, ไทยรัฐออนไลน์

ขอบคุณข้อมูล ไทยรัฐออนไลน์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ