เจ้าหญิงมาโกะ สละฐานันดรศักดิ์
เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น เสกสมรสกับคนรักหนุ่มนักกฎหมายแล้วเมื่อวันอังคาร โดยปราศจากการจัดพิธีตามราชประเพณี รวมถึงปฏิเสธเงินขวัญถุงสำหรับตั้งต้นชีวิตใหม่แบบสามัญชนด้วย
รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า เจ้าหญิงมาโกะ ซึ่งเป็นพระธิดาในเจ้าชายอากิชิโน มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น และเจ้าหญิงคิโกะ เสกสมรสกับเคอิ โคมุระ พระคู่หมั้นหนุ่มวัย 30 ปี ที่หมั้นหมายกันมานาน 4 ปีแล้วในวันเดียวกันนี้ แต่ทั้งสองไม่ได้จัดพิธีตามโบราณราชประเพณีหรือพิธีฉลองมงคลสมรสใดๆ หลังจากชีวิตรักของทั้งคู่ถูกบดบังด้วยข่าวอื้อฉาวเกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินของมารดาฝ่ายชาย
ภาพข่าวโทรทัศน์ญี่ปุ่นเผยภาพที่เจ้าหญิงทรงอำลาพระบิดาและพระมารดา กับเจ้าหญิงคาโกะ พระขนิษฐาที่มีพระชันษา 24 ปี ที่พระตำหนักอากาซากะ โดยเจ้าหญิงมาโกะทรงถือช่อดอกไม้สีชมพูอ่อนช่อเล็กๆ และทรงคำนับอำลาพระบิดาและพระมารดา ก่อนจะทรงสวมกอดพระขนิษฐาอยู่นาน ทุกพระองค์ทรงสวมหน้ากากอนามัย แล้วเจ้าหญิงมาโกะก็เสด็จขึ้นรถยนต์จากมา
เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเผยกับเอเอฟพีว่า เจ้าหญิงซึ่งมีพระชันษา 30 ปีเท่ากับสามี ได้ยื่นเอกสารการสมรสต่อเจ้าพนักงานในพื้นที่และได้รับการยอมรับแล้ว หลังจากนี้ เจ้าหญิงจะกลายเป็นสามัญชนและเตรียมจะย้ายไปอยู่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กับสามีซึ่งทำงานสำนักงานกฎหมาย แต่รายงานกล่าวว่า มาโกะจะอยู่ที่กรุงโตเกียวก่อนสักระยะหนึ่งหลังการแต่งงาน เพื่อเตรียมตัวสำหรับการย้ายที่อยู่ รวมถึงการยื่นขอหนังสือเดินทางเป็นครั้งแรก ภายหลังหนังสือพิมพ์แทบลอยด์เสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ของโคมุระติดค้างหนี้สินอดีตคู่หมั้นราว 35,000 ดอลลาร์ พิธีเสกสมรสของทั้งสองถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แล้วโคมุระเดินทางไปศึกษาต่อที่นิวยอร์กเมื่อปี 2561 และเพิ่งกลับญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ในปี 2564 โคมุระออกแถลงการณ์ 24 หน้า ชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินของครอบครัว และแจ้งว่าเขาจะใช้เงินคืนให้อดีตคนรักของแม่ พร้อมกันนั้นเจ้าหญิงมาโกะทรงยืนกรานจะเสกสมรสกับคนรักที่คบหากันมานานผู้นี้ โดยพระองค์จะไม่รับเงินขวัญถุงการแต่งงานสำหรับเจ้าหญิงที่จะกลายเป็นสามัญชน เป็นจำนวน 153 ล้านเยน (ราว 44.5 ล้านบาท) ผลสำรวจความคิดเห็นเผยว่า เสียงชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับการแต่งงานของทั้งคู่ ในวันแต่งงานมีคนกลุ่มหนึ่งเดินขบวนด้วย แต่โพลล่าสุดของโยมิอุริชิมบุงพบว่า ผู้ตอบคำถามเกินครึ่งเห็นด้วยกับการสมรสครั้งนี้ อีกร้อยละ 33 คัดค้าน
นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า ฝ่ายอนุรักษนิยมมีความคิดเห็นว่าราชวงศ์ไม่ควรเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเงินหรือการเมือง ฮิเดยะ คาวานิชิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยานาโงยา กล่าวว่า สำหรับเจ้าหญิงมาโกะนั้น พระองค์ยังมีสถานะพิเศษที่ทรงเป็นพระธิดาของเจ้าชายอากิชิโน มกุฎราชกุมารซึ่งเป็นพระราชอนุชาของสมเด็จพระจักรพรรดิ และยังเป็นพระเชษฐภคินีของเจ้าชายฮิซาฮิโตะ ที่อยู่ในลำดับที่ 2 ของการสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา
ขอบคุณ thaipost