คนละครึ่ง เฟส 3 สิทธิ์ยังเหลือ
วันที่ 21 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง เตรียมโอนวงเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 3 รอบที่ 3 เพิ่มเติมจำนวน 1,500 บาท โดยนำไปรวมกับวงเงินสิทธิ์คงเหลือให้อัตโนมัติ ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้ถึงเดือน ธ.ค. 2564
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 ยังสามารถลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น. ของทุกวัน ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง จนกว่าจะครบ 28 ล้านสิทธิ์ โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมใหม่ จะได้รับเงินรวม 4,500 บาท ซึ่งยังมีสิทธิ์เหลือกว่าแสนสิทธิ์
เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน มีดังนี้
-มีบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
-อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
-ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น
-ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th)
-ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน), (ตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านบัตรประชาชนได้จาก www.เราชนะ.com)
วิธีลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3
3. เข้าสู่หน้า หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
4. จากนั้นให้คลิกเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ ข้าพเจ้าได้อ่าน และตกลงยินยอมตามรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมข้างต้น จากนั้นกด ยืนยัน
5. เข้าสู่หน้ากรอกข้อมูล เพื่อใช้ในการลงทะเบียน โดยใช้ข้อมูลดังต่อไปนี้
ชื่อ/นามสกุล
-หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
-รหัสหลังบัตรประชาชน
-วัน/เดือน/ปีเกิด
-เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้
-อีเมล (ถ้ามี)
-ข้อมูลอาชีพ
-รายได้
6. เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยให้คลิกคำว่า ลงทะเบียน
7. จากนั้นระบบจะให้กรอกเลข OTP ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านลงทะเบียนไว้ โดยเป็นหมายเลข 6 ตัว เมื่อกรอกเสร็จให้คลิก ยืนยัน OTP
8. เสร็จแล้วจะขึ้นข้อความว่า ระบบได้รับข้อมูลของท่านแล้ว
โดยจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของท่านตามเงื่อนไขโครงการต่อไป ทั้งนี้โครงการจะแจ้งผลการเข้าร่วมโครงการผ่าน SMS/แอปฯ เป๋าตัง ภายใน 3 วัน แล้วคลิกคำว่า กลับสู่หน้าหลัก เป็นอันเสร็จการลงทะเบียน
ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์ภายใน 3 วัน จากนั้นขอให้ท่านยืนยันตัวตนผ่านช่องทางใดก็ได้ ดังนี้
1. ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย
2. ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้
3. ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564
ขอบคุณ ไทยรัฐ