รวบ นักพัฒนาสังคมฯ

รวบ นักพัฒนาสังคมฯ

เรียกได้ว่าสมควรได้รับโทษ ตำรวจ เตรียมฝากตัว นักพัฒนาสังคมฯ ยักยอกเงินกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไม่ครบ 32 จำนวน 13 ล้านบาท ต่อศาลทุจริตฯ พรุ่งนี้ กรณี กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับ นายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการข้าราชการพลเรือน หลังพบพฤติกรรมทุจริตเงินของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง และมีการปลอมบัญชีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน- กันยายน 2564 ไม่ต่ำกว่า 13 ล้านบาท

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้รวบรวมหลักฐาน ไปยื่นขอหมายจับ นายพิศาล ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหา ฉ้อ โกง จากนั้น ได้ประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสอบสวนกลาง เข้ารวบตัว นายพิศาล ได้ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะเตรียมหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ความคืบหน้าทางล่าสุด พันตำรวจเอกบวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ได้นำตัวผู้ต้องหา กลับมาสอบปากคำ ที่ สน.พญาไท แล้ว พร้อมแจ้งข้อหา ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ และปลอมเอกสารราชการ

และวันพรุ่งนี้ ( 20 ก.ย.) จะส่งตัว นายพิศาล ไปให้ ป.ป.ช. พิจารณาฝากขังต่อศาลทุจริตฯล่าสุด ทาง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องนี้ / โดย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ บอกว่า ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่ทราบเรื่อง ได้เร่งประสานตำรวจ กระทั่งตามจับตัวได้ ส่วนเงินที่ถูกยักยอกไป เป็นเงินนอกงบประมาณของ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ไม่ใช่เงินอุดหนุนกลุ่มคนเปราะบางจากสถานการณ์ CV19 ตามที่เป็นข่าว จากการสอบสวน นายพิศาล รับสารภาพว่า กระทำการทุจริตจริง โดยใช้รหัสโอนเงิน ของ ข้าราชการอีก 2 คน ที่มีอำนาจในการถอนและโอนเงิน ที่แอบสืบทราบมา รวมกับรหัสที่ตนเองมี ลอบโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง นำเงินไปเล่น ออนไลน์

ล่าสุด ได้สั่งการให้เปลี่ยนรหัส และจะปรับปรุงระบบเทคโนโลยีการโอนเงิน ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯทั้งหมดแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต ยืนยัน จะดำเนินคดีกับนายพิศาลให้ถึงที่สุด ส่วนกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในฐานะเจ้าทุกข์ ได้ยื่นคัดค้านประกันตัว และสั่งให้นายพิศาลออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมส่งเรื่องไปยัง ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยืนยัน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนกระแสข่าวการตัดเบี้ยผู้สูงอายุ โดยจะเปลี่ยนไปมอบให้กับผู้ที่มีฐานะยากจนเท่านั้น นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ บอกว่า สื่อนำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยข้อเสนอดังกล่าวอยู่ ในชั้นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกำหนดเบี้ยยังชีพ เป็นเพียงการกำหนดแนวทาง รวมทั้งยังต้องขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีอีก

กรณี กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคน พิ การ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับ นายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการข้าราชการพลเรือน หลังพบพฤติกรรมทุจริตเงินของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง และมีการปลอมบัญชีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน- กันยายน 2564 ไม่ต่ำกว่า 13 ล้านบาท

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้รวบรวมหลักฐาน ไปยื่นขอหมายจับ นายพิศาล ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหา "ฉ้อโกง" จากนั้น ได้ประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าจับกุมตัว นายพิศาล ได้ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ขณะเตรียมหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ความคืบหน้าทางล่าสุด พันตำรวจเอกบวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ได้นำตัวผู้ต้องหา กลับมาสอบปากคำ ที่ สน.พญาไท แล้ว พร้อมแจ้งข้อหา ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ และปลอมเอกสารราชการ และวันพรุ่งนี้ ( 20 ก.ย.) จะส่งตัว นายพิศาล ไปให้ ป.ป.ช. พิจารณาฝากขังต่อศาลทุจริตฯล่าสุด ทาง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องนี้ 

โดย นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ บอกว่า ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่ทราบเรื่อง ได้เร่งประสานตำรวจ กระทั่งตามจับตัวได้ ส่วนเงินที่ถูกยักยอกไป เป็นเงินนอกงบประมาณของ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ไม่ใช่เงินอุดหนุนกลุ่มคนเปราะบางจากสถานการณ์ CV19 ตามที่เป็นข่าว จากการสอบสวน นายพิศาล รับสารภาพว่า กระทำการทุจริตจริง โดยใช้รหัสโอนเงิน ของ ข้าราชการอีก 2 คน ที่มีอำนาจในการถอนและโอนเงิน ที่แอบสืบทราบมา รวมกับรหัสที่ตนเองมี ลอบโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง นำเงินไปเล่นพ นัน ออนไลน์ ล่าสุด ได้สั่งการให้เปลี่ยนรหัส และจะปรับปรุงระบบเทคโนโลยีการโอนเงิน ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯทั้งหมดแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในอนาคต

ยืนยัน จะดำเนินคดีกับนายพิศาลให้ถึงที่สุด ส่วนกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในฐานะเจ้าทุกข์ ได้ยื่นคัดค้านประกันตัว และสั่งให้นายพิศาลออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมส่งเรื่องไปยัง ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยืนยัน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนกระแสข่าวการ ตัด เบี้ยผู้สูงอายุ

โดยจะเปลี่ยนไปมอบให้กับผู้ที่มีฐานะยากจนเท่านั้น นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ บอกว่า สื่อนำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยข้อเสนอดังกล่าวอยู่ ในชั้นการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกำหนดเบี้ยยังชีพ เป็นเพียงการกำหนดแนวทาง รวมทั้งยังต้องขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีอีก

ขอบคุณ ข่าวช่องวัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ