คำสารภาพ ของเท้าแชร์

คำสารภาพ ของเท้าแชร์

จากกรณีที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวน น.ส.ธิดาวรรณ หรือ ธัญญ์นภัส บุญกล้า ที่บ้านพักใน อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี หลังเป็นเท้าแชร์ออมเงินผ่านไลน์ ผู้เสียหายเข้ามาออมเงินโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงถึง 20% ต่อวัน จนมีผู้หลงเชื่อในเวลาต่อมา หนึ่งในนั้นคือ นักเรียนวัย 17 ปี ที่ไปชิงสร้อยคอทองคำในห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ระหว่างการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สัมภาษณ์ น.ส.ธัญญ์นภัส ซึ่งเป็นผู้ เท้าแชร์ ทางโทรศัพท์มายังห้องแถลงข่าว เริ่มต้นถามว่า รู้ไหมว่าทำอย่างนี้ทำให้เด็กคนหนึ่งซึ่งเรียนดีหมดอนาคต น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ หนูเพิ่งมาทราบตอนที่เห็นข่าวออก แล้วก็รู้ว่าเป็นน้อง เมื่อถามว่า แล้วเวลาหลอกคนไม่รู้เหรอว่าคนที่คุณหลอกเขาอายุแค่ไหน อายุเท่าไหร่ น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ เพราะว่ามันมีไปต่ออีก หนูก็ไม่ทราบไลน์ว่าใครเป็นคนลงมาอะไรอย่างนี้เลยค่ะ เมื่อถามว่า หลอกมากี่วงแล้ว ทำมากี่ครั้งแล้ว น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า หนูเปิด 2 ครั้งค่ะ หนูมีแค่สองวงค่ะ

ถามว่า คนหนึ่งลงกี่วง มีจำนวนคนที่มาร่วมลงทุนเท่าไหร่ น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า ครั้งล่าสุดประมาณ 40-50 คน ถามว่า ยอดเงินประมาณเท่าไหร่ น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า ครั้งล่าสุดยอดรวมประมาณ 3-4 แสนบาทค่ะ เมื่อถามว่า แล้วคุณทำยังไง เอาเงินตรงนี้ไปทำอะไร แล้วคุณไปเชิญชวนว่ามันได้กำไร มันจริงเหรอ น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า น้องได้คืนทุกคนค่ะ แต่ว่ามันมีบางครั้งที่มันหมุนเงินไม่ทัน พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า เข้าใจ สรุปคือเอาเงินไปหมุนถูกไหม น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า ถูกค่ะ ถามว่า คุณไม่ได้ลงทุนเลยใช่ไหม น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า ค่ะ พอหมุนไม่ทันมันก็จ่ายช้า

จากนั้น พล.ต.ท.กรไชย ให้สื่อมวลชนถาม เมื่อถามว่า รู้สึกผิดไหมที่ทำให้อนาคตเด็กคนหนึ่งต้องจบลง และอาจจะไปจบลงในเรือนจำ ซึ่งเป็นคนที่เรียนดีด้วย เป็นคนดีด้วย น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า รู้สึกผิดมากเลยค่ะ ผิดจริงๆ หนูไม่รู้ว่าหนูจะขอโทษยังไงที่ทำให้ดีขึ้น ถามว่า ถูกดำเนินคดีมากี่โรงพักแล้ว น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า ที่เขาดำเนินคดีหนูก็ได้ชดใช้ไปค่ะ ทุกวันนี้หนูก็ยังชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกคน มีมากมีน้อยหนูก็ทยอย ถามว่า กี่โรงพัก กี่ครั้ง กี่หน กี่คดี น.ส.ธัญญ์นภัส นิ่งสักครู่และกล่าวว่า ประมาณ 3-4 คดีค่ะ

ถามว่าแต่ละคดียอดเงินเท่าไหร่ น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า โดยประมาณแล้วแต่คน บางคนก็ถึงหมื่น บางคนก็ 5,000 8,000 เมื่อถามว่า แล้วคนที่ไม่ได้เลยอีกเท่าไหร่ เงินอีกสัก 3-4 แสนบาท เขาไม่มาติดตามบ้างเหรอ น.ส.ธัญญ์นภัส ตอบว่า น้องก็มีการตกลงกันในกลุ่มค่ะ แล้วก็ทยอยใช้คนนี้ใช้คนนั้น 3,000 คนนี้พี่มี 2,000 นะ แบ่งกันอย่างนี้ค่ะ แต่น้องยังไม่ได้มาติดต่อหนู หนูก็มารู้จากข่าว

ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามว่า มีผู้ร่วมขบวนการมีกี่คนที่ร่วมบริหารแชร์นี้แล้วก็หมุนโยกย้ายเงินต่างๆ น.ส.ธัญญ์นภัส นิ่งสักครู่และกล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวหนูขอไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนะคะ ถามว่า คิดยังไงถึงไปตั้งวงแชร์เถื่อนนี้แล้วก็เอาเงินไปหมุน น.ส.ธัญญ์นภัส พยายามนึกแล้วกล่าวว่า หนูแบบรู้สึกแย่มากเลย รู้สึกแบบรู้สึกผิด รู้สึกแบบไม่สมควรเอาตัวเองเข้ามาอยู่ตรงนี้จริงๆ แล้วก็ไม่น่าให้เกิดเรื่องนี้ ถ้าหนูไม่ตัดสินใจร่วมมันจะไม่เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนแบบนี้เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เราบอกว่าสำนึกผิดแต่ว่าดูจากพฤติการณ์แล้ว ตั้งวงแล้ว ตั้งวงอีก จนในโซเชียลฯ ตั้งเป็นทำเนียบเตือน อันนี้เรียกว่าสำนึกผิดไหม น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า หนู จะใช้คำว่ายังไงดี เดี๋ยวพี่รอดูแบบแถลงของตำรวจดีกว่า ว่าหนูแบบทำอย่างนั้นหรือเปล่า แต่หนูไม่ได้ทำ แค่นี้หนูก็รู้สึก เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรกับคนที่เขาเป็นผู้เสียหายของเราไหม น.ส.ธัญญ์นภัส นิ่ง ก่อนจะกล่าวว่า หนูก็ขอโทษ ขอโทษกับสิ่งที่ ก่อนสัญญาณจะขาดหายชั่วครู่ ถามว่า ก่อนถูกจับรับผิดชอบกี่วง แล้ววงละเท่าไหร่ รวมเงินทั้งหมด น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า คืนผู้เสียหายเหรอคะ รับผิดชอบจ่ายเขามาเรื่อยๆ ค่ะ จ่ายอยู่แล้วก็คือ น้องคนนี้เขาลดให้เท่านี้ เรามีเราก็จ่าย เราบอกเขาว่า เออ วันนี้พี่มีเท่านี้นะ เราก็ทยอยจ่าย แต่มันอาจจะไม่ได้แบบทั่วถึงทันทีทันใดทุกคนค่ะ

ถามว่า พอบอกเป็นตัวเงินได้ไหมว่าประมาณเท่าไหร่ น.ส.ธัญญ์นภัส กล่าวว่า “โดยประมาณหนูไม่มั่นใจ เพราะว่าเขาทักมาหาหนู หนูก็จะบอก มีหนูก็จะแบบ ตัวเอง 2 วันนะ เดี๋ยวพี่จะหาให้ 3 วันนะเดี๋ยวพี่จะหาให้ แล้วหนูก็ทยอยคืนมาตลอดเลย

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวสรุปว่า น.ส.ธัญญ์นภัส ใช้วิธีการหมุนเงินจากคนนี้ไปหาคนนี้ พอได้จากคนนี้ก็เอามาจ่ายคนนี้ คนที่ไม่ได้ต้องมีอยู่สักจุดหนึ่งที่เขาหาไม่ได้ พอไม่มีเหยื่อมาอยู่ในกลุ่มแชร์ ชุดจับกุมระบุว่า วงแรก 540 คน วงที่สอง 100 คน วงแรกวงละ 20 มันก็คือการเอาเงินมาหมุน

จะบอกมีความสำนึกไหม เขาก็รู้ว่าเขาไม่มีเงิน แล้วการที่เอาเงินของคนที่เป็นผู้บริสุทธิ์มา ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็คงไม่เป็นไร แต่นี่เป็นเยาวชน ไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก ทำให้เขาตัดสินใจที่ผิด ถึงบอกว่าแบ่งเป็นสองกรณี ส่วนที่เขาผิดก็คือผิด ส่วนที่เขาเป็นผู้เสียหาย ผมก็มีหน้าที่จะต้องนำเงินที่เขาเสียไปคืนมา

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ต้องหาผ่านการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2563 เปลี่ยนจากเดิม ธิดาวรรณ บุญกล้า เป็น ธัญญ์นภัส ภิญโญกาญจนพัฒน์ (เปลี่ยนนามสกุลก่อน แล้วถึงเปลี่ยนชื่อ) และวันที่ 22 ก.ย. 2563 เปลี่ยนนามสกุลจาก ธัญญ์นภัส ภิญโญกาญจนพัฒน์ เป็น ธัญญ์นภัส บุญกล้า

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ