ลูกค้าประจำสงสัย บะหมี่อร่อยจนหยุดกินไม่ได้ เข้าแจ้งความจนร้านโป๊ะแตก
เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า วันที่ 11 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมเจ้าของร้านอาหารริมทางแห่งหนึ่ง ในเมืองเหลียนยุนกัง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ภายหลังจากตรวจสอบพบว่า แอบใส่สารผิดกฎหมายในอาหาร เพื่อให้ลูกค้าติดใจแล้วกลับมาซื้อใหม่
สื่อท้องถิ่นเผยว่า ร้านอาหารดังกล่าวขายอาหารประเภทบะหมี่ ขายดิบขายดีมีลูกค้าไปกินไม่ขาดสาย กระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ให้ข้อมูลรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกค้าประจำ เผยว่า ตนรู้สึกแปลก ๆ ประกอบกับเห็นข่าวว่ามีร้านอาหารบางแห่งแอบใส่สารเสพติดในอาหารให้ลูกค้า จึงสัยว่าร้านนี้อาจจะทำเช่นเดียวกัน
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว พร้อมนำตัวอย่างอาหารไปดำเนินการทดสอบ ก่อนผลจะออกมาพบสารปาปาเวอร์รีน และนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดที่มาจากฝิ่น และสารประกอบผิดปกติอื่น ๆ ในระดับสูง
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าดำเนินการบุกตรวจค้นทั้งร้าน โดยยึดหม้อน้ำมันพริกขนาดใหญ่ต้องสงสัย ก่อนผลการตรวจสอบจะพบว่ามีส่วนประกอบของสารที่ได้จากฝิ่นเช่นเดียวกัน
ภายหลังจากการสอบสวนทางเจ้าของร้าน ให้การรับสารภาพว่าแอบใส่สารดังกล่าวจริง เพื่อให้ลูกค้าติด แล้วอยากกินกินอีกจนต้องกลับมาซื้อซ้ำ โดยอ้างว่าเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ขาดรายได้ ไม่อยากให้ธุรกิจเจ๊ง จึงต้องใช้วิธีนี้
รายงานของทางเจ้าหน้าที่เผยว่า เจ้าของร้านรับซื้อผงยามาจากจากพ่อค้าเครื่องเทศ จากนั้นผสมเข้ากับพริก น้ำมันถั่วเหลือง และบะหมี่เย็น ซึ่งทำให้รสชาติดีขึ้น แต่เป็นสารเสพติด ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายผู้บริโภค
โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับทางเจ้าของร้านดังกล่าว
ข้อมูลจาก thesun.co.uk