หลายฝ่ายต่างโล่งอกหลังพบตัว น้องจีน่า ด.ญ.พรศิริ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ที่หายตัวไปจากบ้านเลขที่ 72/2 บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ 19 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย. ขณะนายสุริยะ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 43 ปี พ่อขี่รถ จยย.ออกไปทิ้งขยะ และ น.ส.มาละ ปะสี อายุ 23 ปี แม่ทำครัวอยู่หลังบ้าน ส่วนน้องจูเนียร์ พี่ชายวัย 4 ขวบนั่งเล่นอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่คุมตัวนายเสี่ยว หรืออาผะ อายุ 45 ปี ชาวเมียนมาเป็นผู้ต้องสงสัยคาดว่าลักพาตัวเด็กไป แต่ยังให้การวกวน

ขณะที่เจ้าหน้าที่นับร้อยคนต่างระดมกำลังออกตามหาตัวน้องจีน่าร่วม 3 วัน กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายจะบูสือ จะลอ ลุงของน้องจีน่าไปพบหลานอยู่ในเพิงพักร้างบนยอดดอยท้ายหมู่บ้านห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กม. สภาพเนื้อตัวเปื้อนโคลนและมีอาการอ่อนเพลีย ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกล่องนมถั่วเหลืองให้น้องจีน่าดูดกินอย่างหิวโหยและนำตัวลงมาจากดอย ส่วนพ่อแม่เห็นน้องจีน่าต่างสวมกอดยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ แล้วอุ้มน้องจีน่าไปหาพยาบาลให้น้ำเกลือ ก่อนจะนำขึ้นรถพยาบาลไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลนครพิงค์ท่ามกลางความดีใจของกลุ่มชาวบ้านนับร้อยที่ไปยืนปรบมือและแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตำรวจดำเนินคดีกับนายอาผะในข้อหาลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนเตรียมรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีลักพาตัวและพรากผู้เยาว์อายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ขณะเดียวกันจะนำตัวนายอาผะมาสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อเชื่อมโยงไปถึงคนที่เกี่ยวข้อง พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างชัดเจนว่า น้องจีน่าถูกอุ้มและนำไปซ่อนตัวไว้ที่อื่น ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่และถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ระดมค้นหา ทำให้ผู้กระทำผิดเริ่มหวาดกลัวและนำตัวน้องจีน่าไปทิ้งไว้ที่เพิงพักร้างจนพบตัว เชื่อว่าจะต้องมีมากกว่า 1 คนแน่นอน

พ.ต.อ.ณฐภณ กล่าวอีกว่า ข้อมูลในคดียังเปิดเผยได้ไม่มาก เพราะจะไปกระทบกับการสืบสวนเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด บุคคลที่รู้ตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขอให้เดินทางมาสารภาพความจริงกับตำรวจเพื่อผ่อนหนักเป็นเบา ขณะที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ สส.ภ.จ.เชียงใหม่ลงพื้นที่หมู่บ้านห้วยฝักดาบเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ขณะเดียวกันสหวิชาชีพจะซักถามข้อมูลเพิ่มเติมจากน้องจูเนียร์ พี่ชายของน้องจีน่าที่ระบุเห็นเหตุการณ์ขณะถูกลักพาตัว รวมทั้งพ่อแม่ของน้องจีน่าเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมด และรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหากับคนที่เกี่ยวข้อง ส่วนน้องจีน่าที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นที่โรงพยาบาลนครพิงค์

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา พร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่แตง และพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีลักพาตัวน้องจีน่า นายเอกลักษณ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุข้อสงสัยของประชาชนที่ติดตามข่าวว่า เด็กหายไปได้อย่างไร และการพบตัวน้องจีน่ามีลักษณะข้อสงสัยว่าอาจมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่ยังไม่ปรากฏ รวมทั้งข่าวที่ออกมาเป็นลักษณะการค้ามนุษย์เอาไปขายต่อ ความเป็นจริงจากการทำงานเรื่องเด็กหายมากว่า 10 ปี ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่เอาเด็กไปขายในลักษณะแบบนี้ ดังนั้นการมาหาข้อเท็จจริงเพื่อเป็นการมาเอาองค์ความรู้ไปใช้ในอนาคตสำหรับการป้องปรามหรือติดตามเด็กหาย อีกทั้งผู้ต้องสงสัยส่วนหนึ่งต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่า ข้อเท็จจริงตามที่สื่อมวลชนเสนอไปนั้นจริงหรือไม่ หรือมีผู้อื่นร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่

นายเอกลักษณ์เปิดเผยอีกว่า จุดที่พบเด็กเป็นไปได้ยากที่เด็กวัย 1 ขวบ 11 เดือน จะใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองตามลำพังเป็นเวลา 2 วัน 18 ชั่วโมง เป็นเรื่องที่ต้องขยายผลต่อไปและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดูข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่หน่วยกู้ภัยไปพบเด็กบริเวณเพิงพัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยไปตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบนั้น ลักษณะของเพิงพักอยู่บนเขาสูงชัน เป็นการยากมากที่เด็กในวัยนี้จะเดินมาด้วยตัวเอง รวมทั้งสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวณนั้นเป็นพื้นที่สูงชันทั้งหมด แม้กระทั่งคนจากพื้นที่อื่นที่ไม่เคยเดินในพื้นที่สูงชันมาก่อนเป็นการยากมากที่จะอุ้มเด็กขึ้นมาได้ ดังนั้น เป็นข้อสังเกตว่าบริเวณจุดที่พบเด็กไม่มีคนนอกผ่านเข้าออกบริเวณด้านหลังหมู่บ้าน และไม่ใช่พื้นที่ถนน สาธารณะ เป็นเส้นทางธรรมชาติ และเข้าออกได้เฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่เท่านั้น ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่าใครที่มีศักยภาพสามารถนำเด็กไปไว้ในจุดนั้น

ต่อมาเวลา 14.30 น. ตำรวจคุมตัวนายอาผะ อายุ 44 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีลักพาตัวน้องจีน่าออกมาจากห้องคุมขังของ สภ.แม่แตง เพื่อไปสอบสวนเพิ่มเติม ประเด็นเชื่อมโยงถึงผู้ร่วมขบวนการลักพาตัวน้องจีน่าใช้เวลา 30 นาที ก่อนจะคุมตัวกลับไปห้องคุมขัง ขณะเดินเข้าห้องขังนายอาผะมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน ตำรวจเรียกนายวิชัย จะซา ผู้ใหญ่บ้านห้วยฝักดาบ หมู่ 19 ต.อินทขิล อ.แม่แตง มาสอบสวนเพิ่มเติม ภายหลังการสอบสวนเสร็จนายวิชัยเปิดเผยว่า

พบตัวน้องจีน่าอย่างปลอดภัย ทำให้ชาวบ้านคลายความกังวล เพราะน้องจีน่าหายไปทำให้ทุกคนเป็นห่วง เพราะถือเป็นลูกหลานในหมู่บ้าน ส่วนหลังจากนี้ถือเป็นบทเรียนที่ชาวบ้านทุกคนตื่นตัวและระมัดระวังบุตรหลานให้มากขึ้น ส่วนลุงกับป้าและหญิงเพื่อนบ้านอีก 1 คน เป็นญาติทางฝ่ายแม่น้องจีน่า ทั้งหมดไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่อยู่ที่ อ.เชียงดาว ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ป้าของน้องจีน่าเข้ามาพักอยู่กับญาติในหมู่บ้านห่างจากบ้านของน้องจีน่าประมาณ 300 เมตร บอกว่าไม่สบายมาให้ญาติช่วยดูแล ต่อมาลุงน้องจีน่าเดินทางเข้าหมู่บ้านในช่วงที่น้องจีน่าหายไป พร้อมให้ข้อมูลว่าหมอผีชี้จุดจนพบตัวน้องจีน่า

มีรายงานว่า ตำรวจ สส.ภ.5 คุมตัวนายจะบูสือ จะลอ อายุ 32 ปี เป็นพี่ชายแม่น้องจีน่า พร้อมด้วยภรรยาซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงและป้าสะใภ้ของน้องจีน่าและชาวบ้านเป็นหญิงอีก 1 คนคาดว่าเป็นหมอผีไปสอบสวนในเซฟเฮาส์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ภายหลังนายอาผะให้การซัดทอดมีชาย 1 คน และหญิง 2 คน เป็นคนจ้างวานให้ไปอุ้มน้องจีน่ามาจากบ้านเพื่อนำไปขายต่อ

ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพพร้อมพนักงานสอบสวนจะนำตัวน้องจูเนียร์ อายุ 4 ขวบ พี่ชายของน้องจีน่า มาสอบปากคำเพิ่มที่ บก.ภ.จ.เชียงใหม่ อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้สอบปากคำไปแล้วครั้งหนึ่งเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ ลักพาตัวน้องจีน่า ถึงแม้ว่าตำรวจจับกุมนายเสี่ยว หรืออาผะ อายุ 44 ปี สอบปากคำอยู่นั้นน้องจีน่าอยู่บนเพิงพักร้างท้ายป่าหมู่บ้านเป็นพื้นที่สูง เด็กจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีคนดูแล ขณะนี้ตำรวจสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมไปถึงสอบสวนลุงและญาติที่ขึ้นไปพบเจอน้องจีน่าด้วย ส่วนตัวหมอผีที่ญาติฝ่ายแม่น้องจีน่าไปถามนั้นต้องไปสอบสวนอีกด้วย

เบื้องต้นยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่มและยังไม่มีการตั้งข้อหากับนายอาผะเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ปรากฏไปตามข่าวนั้น ตำรวจรับฟังทุกข่าวสารจะนำมารวบรวมเป็นพยานหลักฐานหาเบาะแสเชื่อมโยงไปถึงใครบ้าง สำหรับอาการน้องจีน่า นพ.วรเชษฐ์ เต๋ชะรัก ผอ.รพ.นครพิงค์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า แพทย์ส่งตัวน้องจีน่าพร้อมด้วยพ่อแม่พักฟื้นด้วยกันในห้องความดันลบตามมาตรการ อาการทั่วไปของน้องจีน่าปลอดภัย ฟื้นตัวได้ดี แต่ยังต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดยรวมทั้งหมดถือว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นายสุริยะ วงศ์ศิลารุ่ง อายุ 43 ปี พ่อน้องจีน่า เปิดเผยว่า หลังจากพบตัวน้องจีน่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 8 ก.ย. และส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากน้องมีอาการอ่อนเพลียจากการถูกลักพาตัวไป 3 วัน แพทย์ให้น้ำเกลือ ตรวจร่างกายพบอาการขาดน้ำ มีร่องรอยบาดแผลตามร่างกายถูกบาดด้วยใบหญ้า กิ่งไม้ ต้นไม้ และมีร่องรอยยุงและแมลงกัดเต็มตัว น้องยังมีอาการหวาดผวาคนรอบข้าง แม้แต่ตนที่เป็นพ่อไม่ยอมให้อุ้มหรือกอด

แต่ช่วงเช้าวันนี้อาการหวาดผวาเริ่มลดลงยอมให้พ่อแม่กอด แพทย์ยังให้น้ำเกลือ น้องทานอาหารได้ปกติแล้ว อาการขาดน้ำดีขึ้นแข็งแรงและสดชื่น แพทย์บอกว่าน้องแข็งแรงดีมาก แต่ยังให้รอดูอาการต่อและดูเรื่องสภาพจิตใจจะมีจิตแพทย์เด็กเข้ามาดูแลช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วย นายสุริยะเปิดเผยอีกว่า ครอบครัวดีใจที่สุดได้น้องจีน่าคืนมาปลอดภัย เป็นสิ่งที่ครอบครัวตั้งความหวังไว้มากที่สุดเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องคดีความและการดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะส่วนตัวพอใจถึงที่สุดแล้วกับการได้ตัวลูกสาวคืนมาอย่างปลอดภัย

ขอบคุณ ไทยรัฐ