น.ส.สมพร หลาบโพธิ์

น.ส.สมพร หลาบโพธิ์

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กกตูม ได้เชิญตัวน.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยาของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากอัยการพิจารณาคดีแล้วเห็นว่าพยานหลักฐาน และพฤติการณ์ทั้งหลายในสำนวนการสอบสวน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า น.ส.สมพร ได้ร่วมกระทำผิด โดยร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่น้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบ ศ-พ ก่อนการชันสูตรพลิก ศ พ เสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิก ศ พ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ตาม ป.วิอาญา ม.150 ตามที่นำเสนอข่าวนั้น

ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.64 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ตนเคยพูดมาตั้งแต่ช่วงแรกว่าจะมีโทษทั้ง 2 คน และหลักฐานชัดเจน คือ เ ส้ น ข น ไ ร้ ร า ก 3 เ ส้ นที่ตกอยู่ใน ก า ง เ ก ง ที่ถูก ซ่ อ น อยู่ในโ ข ด หิน ป้าแต๋นจึงต้องตอบเจ้าหน้าที่ให้ได้ว่า เส้น ผ มไปตกในที่เกิดเหตุได้อย่างไร ทั้งที่เข้าเองก็อ้างไม่ได้ขึ้นเขาด้วย

ส่วนที่ทนายรัชพล จะพาป้าแต๋นไปรับทราบข้อกล่าวหาก็เป็นเรื่องของเขา เพราะไม่มีราคาสำหรับตนอยู่แล้ว อยากจะพาใครไปก็ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน หน้าที่ของตนคือเป็นโจทก์ร่วมในชั้นศาล ซึ่งตนเตรีมทนายความไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนแม่น้องชมพู่ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม แต่สืบทราบมาว่ามีพยานบางคนถูกซื้อตัวให้กลับคำให้การ ตนขอเตือนว่าโทษหนักถึง 7 ปี ในการเบิกความเท็จต่อศาล เตือนให้ทราบว่าหลักฐานต่าง ๆ จะแพ้หรือชนะอยู่ที่นิติวิทย าศาสตร์

ขณะที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานทนายเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดเผยว่า จากการแจ้งข้อหาป้าแต๋นเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.64) ควบคู่ไปกับกรณีที่ป้าแตน ให้การมาตลอดว่าไม่เคยขึ้นเขาภูเหล็กไฟ แต่เมื่อไปพบเ ส้ นผมและพิสูจน์แล้วว่าเป็นของป้าแต๋น จึงเป็นที่มาของอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่ม

เพราะเหตุใดจึงมีเส้นผม 3 เส้น อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเป็นพยานหลักฐาน ที่เพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหาได้ เป็นไปตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 130 ถ้ามีหลักฐานตามสมควร จึงมีความเกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อหาดังกล่าว และลักษณะเกี่ยวกับการไปยุ่งเกี่ยวกับ ศ พ หรือบริเวณที่พบ ก่อนมีการชันสูตรพลิกศพ เช่น ถ อ ดเ สื้ อ ผ้ า จัดรูป ร่ า ง ท่าทาาง ศ พ ทำ ลาย สภาพแวดล้อม และหากทำไปเพื่ออำพรางคดี จะถูกโทษหนักเพิ่มอีก 2 เท่า เพราะเป็นการปิดบังสาเหตุการ ต า ย ส่วนที่ทนายรัชพล จะพาป้าแต๋นไปรับทราบข้อกล่าวหานั้น เป็นสิทธิ์ของผู้ ต้ อ ง ห า จะพาทนายคนใดไปก็ได้ เพราะเมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหา การมีทนายอยู่ด้วยเป็นเรื่องปกติ ทนายความเมื่อไปถึงก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพียงไปนั่งร่วมฟังเท่านั้น จะเป็นใครก็ได้ที่ป้าแต๋นไว้วางใจ หรืออาจจะไม่ใช่ทนายก็ได้

นายธนกฤต หลาบโพธิ์ ลูกพี่ลูกน้องกับเเม่น้องชมพู่และป้าแต๋น กล่าวว่า ตนพอจะทราบว่าป้าแต๋นจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตนไม่คาดคิดว่าป้าแต๋นจะถูกแจ้งด้วยซ้ำ ทั้งนี้ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยข้อมูลว่ามีหลักฐานคือเส้นผมของป้าแต๋น ไปตกอยู่ใกล้กับศพน้องชมพู่ ตนขอถามกลับว่า

ทำไมเพิ่งจะมาแจ้งข้อหา ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ทีแรก รออะไรเป็นปี แล้วทำไมตอนแจ้งข้อหาลุงพล ทำไมไม่แจ้งข้อหาป้าแต๋นไปด้วย ส่วนป้าแต๋นจะขึ้นเขาลงเขาหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เท่าที่ทราบป้าแต๋นไม่ค่อยขึ้นเขา แต่หากจะมีเส้นผมของป้าแต๋น ติดไปกับน้องชมพู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นญาติกัน ตั้งแต่ลุงพล ถูกแจ้งข้อหาตนยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับลุงพล ขณะนี้ป้าแต๋นกำลังจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตนก็รู้สึกเป็นห่วง แต่ถึงอย่างไรตนก็เชื่อว่าทั้งคู่ไม่ได้ทำ ขอให้ทั้งคู่สู้คดีต่อไป ขอให้กำลังใจทุกฝ่าย รวมถึงแม่ของน้องชมพู่ด้วย

คลิป

ขอบคุณ ภาพข่าว เนื้ อหาข่าวจากรายการทุบโต๊ะข่าวอัมรินทร์ทีวี 34

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ