พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้

พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เพจ เรื่องเล่าเช้านี้ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า Update จากกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ มีพฤติกรรมแปลก คล้าย ป่ ว ย ด้วยอาการ 2 บุคลิก หรือไ บ โ พ ล าร์ โดยคนใกล้ชิดทราบดี แต่ไม่มีหลักฐานชี้ชัด เพราะเจ้าตัวไม่เคยตรวจรักษา ล่าสุด (31 ส.ค. 64) ทีมข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความส่วนตัว อดีต ผกก.โจ้ ระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้ แต่จะมีการสอบถาม อดีตผกก.โจ้ อีกครั้ง และหาก ป่ ว ย จริงก็จะไปขอเอกสารการรักษา เบื้องต้นหากพบว่ามีอาการ ป่ ว ย ก็อาจจะเป็นไปได้ ว่า ช่วงเวลาที่ก่อเหตุ เกิดจากความบกพร่องของ ร่ า ง ก า ย หรือไม่

โพสต์ดังกล่าว

และ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้มีหนังสือที่ อส 0017.4/4 ลงวันที่ 5 ม.ค.64 แจ้งผลเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีนำเข้ารถยนต์ราคาแพง (รถหรู) โดยสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง กรณีรถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี หมายเลขรุ่น AVENTADOR หมายเลขตัวรถ ZHWEC1ZD6DLA02280 หมายเลขเครื่องยนต์ L 53901702 ระบุว่า พนักงานอัยการมีความเห็นและคำสั่งในคดีแล้ว และมีของกลางที่พนักงานสอบสวนยึดไว้ตามบัญชีของกลางส่งมาด้วย

ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยได้กระทำความผิด จึงให้พนักงานสอบสวนจัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 โดยหนังสือแจ้งผลดังกล่าวถือว่าพนักงานอัยการมีดุลพินิจออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล แต่ไม่ขอให้ศาลริบรถยนต์ของกลางตามที่ดีเอสไอร้องขอ ดีเอสไอจึงคืนรถยนต์ของกลางให้กับผู้ครอบครองหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ 199/2560 และมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 8 ราย ในความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560, พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และกฎหมายอาญา พร้อมส่งสำนวนและบัญชีของกลาง ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 62 และขอให้ริบรถยนต์ของกลางในคดีด้วย

โดยระหว่างการดำเนินคดีดีเอสไอได้อนุญาตให้ นายธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ครอบครองหรือผู้มีสิทธิเรียกร้องในขณะนั้นทำสัญญานำรถยนต์ของกลางไปเก็บรักษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85/1 อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ต่อมาพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนแล้ว วินิจฉัยว่า บริษัทผู้ต้ อ งห าที่ 1 ถึงที่ 7 อยู่ในกระบวนการนำรถยนต์ของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรและสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากรจึงมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย และมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 1 ราย ซึ่งตนได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 28 ม.ค.64

เพื่อให้ชี้ขาดความเห็นตามกฎหมาย กระทั่งอัยการมีดุลพินิจำสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล แต่ไม่ขอให้ศาลริบรถยนต์ของกลาง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การดำเนินคดีของดีเอสไอ ทำเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีพนักงานอัยการจาก สำนักงานการสอบสวน ร่วมการสอบสวน มีที่ปรึกษาคดีพิเศษร่วมให้ข้อมูล ก่อนจะร่วมกันตัดสินใจในทุกขั้นตอน และการสืบสวนสอบสวนมีการดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายในทุกขั้นตอน

ซึ่งจากอาการดังกล่าว ทำให้ชาวโซเชียลต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่าหาทางรอดจนได้ อย่างไรก็ตามรอติดตามกันต่อไปครับ

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ