พม.เปิดช่องทางออนไลน์ ให้ผู้เดือดร้อน CV19 ยื่นขอเงิน 3,000

พม.เปิดช่องทางออนไลน์ ให้ผู้เดือดร้อน CV19 ยื่นขอเงิน 3,000

สืบเนื่องจากสถานการณ์ CV19 ระบาดระลอกนี้ กินระยะเวลายาวนานกว่าครั้งก่อนๆ ทำให้ผู้คนประสบความเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องปากท้องและเงินทองไม่มี เนื่องจากรายได้ลดลง ทำงานไม่ได้ บางรายถูกเลิกจ้างนั้น นายสุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า

เนื่องด้วยประชาชนสามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐผ่านระบบออนไลน์ เช่น โครงการเราชนะ โครงการคนละครึ่ง ฯลฯ พส.จึงได้เปิดบริการยื่นขอรับเงินช่วยเหลือออนไลน์ หรืออีเซอร์วิส เพื่อให้ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากโควิด-19 เช่น รายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ ไม่มีงานทำ มีหนี้สิน หรือป่วยเป็นโรคร้ายแรง เป็นต้น สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด หรือคลิก ยื่นคำขอรับบริการ ในเว็บไซต์กรม พส.

www.dsdwservice.dsdw.go.th

แสกนคิวอาร์โค้ด

นายสุทธิ กล่าวอีกว่า จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ พร้อมแนบไฟล์เอกสาร เช่น บัตรประชาชน ฯลฯ ก่อนให้ระบุสภาพความเดือดร้อนและสิ่งที่อยากขอความช่วยเหลือ เช่น ไม่มีงาน อยากให้ช่วยจัดหาอาชีพให้ ไม่มีเงินทุนประกอบอาชีพ อยากกลับภูมิลำเนาแต่ไม่มีค่าเดินทาง เป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ ต้องการถุงยังชีพ ฯลฯ แล้วกดส่ง

ต่อมาจะเข้าสู่ขั้นตอนการรับและตรวจเคส โดยเจ้าหน้าที่ พส.จะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ด้วยการโทรกลับไปสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการเบื้องต้น แล้วนัดวันที่ผู้ร้องสะดวกเพื่อส่งนักสังคมสงเคราะห์ลงเยี่ยมบ้าน แต่อย่างช่วงนี้ที่โคCV19 แพร่กระจายหนัก จะใช้วิธีให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ที่อยู่ในชุมชนอยู่แล้ว เข้าไปเยี่ยมบ้านแทนและแจ้งข้อมูลมาให้นักสังคมสงเคราะห์อีกที เมื่อใส่ข้อมูลการเยี่ยมบ้านเข้ามาในระบบ จากนั้นจะพิจารณาว่าผู้ร้องมีคุณสมบัติได้รับเงิน 3,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ที่ให้ครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท ได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีหรือไม่

เบื้องต้นในช่วงสถานการณ์โควิด เราได้ผ่อนคลายระเบียบและกำหนดว่าตั้งแต่รับเรื่องมาจนถึงโอนเงินเข้าบัญชี จะต้องใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน ส่วนกรณีถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่ จะใช้สิทธิขอเงิน 3,000 บาทได้หรือไม่นั้น นายสุทธิกล่าวว่า

หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นผู้เดือดร้อนและยากจนจริง สามารถรับเงินในส่วนนี้ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ เราจะแจ้งตอนลงเยี่ยมบ้านเลยว่าไม่ได้เพราะอะไร อย่างเคยมีกรณีผู้สูงอายุท่านหนึ่ง แจ้งว่าไม่มีทรัพย์สิน รายได้ ปรากฏว่าพอลงเยี่ยมบ้าน ทราบความจริงว่ามีลูกที่เป็นข้าราชการเลี้ยงดูอยู่ อยู่ในบ้านใหญ่โต เราก็แจ้งเลยว่ายังไม่เข้าคุณสมบัติ เพราะเงินนี้ให้สำหรับผู้เดือดร้อนจริงๆ นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องให้นักสังคมสงเคราะห์ลงเยี่ยมบ้านก่อน

ขอบคุณ มติชนออนไลน์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ