บันทึกของคุณหมอ ผู้ไม่รับวัคซีน
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เพจ TNN World ได้โพสต์ข้อความระบุว่า Editor’s Pick บันทึกของคุณหมอผู้ไม่รับวัคซีน เรื่องราวของเหล่าผู้ปฏิเสธวัคซีนในอังกฤษ ที่ออกมาเตือนผู้คน หลังเสียใจที่เคยตัดสินใจผิดพลาด จำนวนผู้ป่วยที่รับการรักษาโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแบรดฟอร์ด รอยัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับโรงพยาบาลอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักร ศ.นพ. จอห์น ไรท์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อสุขภาพแบรดฟอร์ด ระบุว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยเลือกไม่รับวัคซีน แต่ตอนนี้หลายคนเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ตัดสินใจพลาด
ได้รับการเสนอวัคซีน แต่เย่อหยิ่ง “ผมได้รับการเสนอให้ฉีดวัคซีน แต่ผมหยิ่ง” ไฟซาล บาชีร์ วัย 54 ปีที่มีรูปร่างฟิตสุด ๆ กล่าว เขาเป็นหนึ่งในผู้ป่วยโควิดจากการระบาดระลอกที่ 4 ในสหราชอาณาจักร “ผมทั้งไปยิม ปั่นจักรยาน เดิน และวิ่ง เนื่องจากผมแข็งแรงและสุขภาพดี ผมจึงไม่คิดว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีน นั่นหมายความว่า หากที่ไหนที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ผมก็จะไม่เสี่ยงไป แต่ความจริงก็คือผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงไวรัสได้ มันมาติดผมโดยที่ผมไม่รู้ว่ายังไง หรือจากที่ไหน
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กับการได้รับออกซิเจนในโรงพยาบาล ไฟซาลออกจากโรงพยาบาล ด้วยความกระตือรือร้นที่จะเตือนคนอื่น ๆ ว่าอย่าทำผิดพลาด “สิ่งที่ผมต้องเจอในโรงพยาบาล ทำให้ผมอ่อนน้อมมากขึ้น และตอนนี้ผู้คนกำลังทะลักเข้าโรงพยาบาลด้วยการเลือกของพวกเขาเอง มันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก ผมหวังว่าการพูดออกมาจะช่วยให้คนอื่นไม่ต้องเผชิญประสบการณ์แบบผมอีก” เขากล่าว
เชื้อสายพันธุ์ Delta ตัวแปรที่สำคัญ เมื่อเดือนที่แล้วจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาล 'แบรดฟอร์ด รอยัล' ที่ติดเชื้อโควิด ลดลงเหลือเพียงจำนวนหลักหน่วย ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว สัปดาห์นี้กำลังมุ่งหน้าสู่ 50 เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Delta ลบสถิติเก่า ๆ ออกไปทั้งหมด ตัวเลขนี้สะท้อนถึงอัตราการติดเชื้อในชุมชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเกือบ 400 คนต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นราว 33% และคนหนุ่มสาวกลายเป็นสัดส่วนหลักของอัตราผู้ติดเชื้อ
โดยผู้ติดเชื้อมีจำนวน 750 คนที่เป็นวัยรุ่น ต่อผู้ติดเชื้อ 100,000 คน และตอนนี้ ผู้ป่วยในสหราชอาณาจักรมีอายุลดลงจากค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนหน้านี้ โดยผู้ป่วยช่วงอายุ 30 และ 40 ปีมีจำนวนมากขึ้น “บางคนได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว แต่ก็ติดเชื้อ พวกเขายังมีชีวิตอยู่โดยใช้เครื่อง Cpap (เครื่องช่วยหายใจแบบไม่ต้องต่อท่อ) หากไม่ได้รับวัคซีน พวกเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้” ดร. อาบิด อาซิซ แพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจระบุ บางคนเพิ่งได้รับวัคซีนเข็มแรกและไม่ได้รับการป้องกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ และผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งของวอร์ดวันนี้ ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ผมเลิกถามพวกเขาแล้วว่าทำไม เพราะพวกเขาเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
คุณหมอผู้ต้องกลายมาเป็นผู้ป่วยหนัก ศ.นพ. จอห์น ไรท์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแบรดฟอร์ด ที่เป็นทั้งแพทย์และนักระบาดวิทยา และยังเป็นหมอที่ผ่านศึกกับโรคระบาดต่าง ๆ เช่นอหิวาตกโรค โรค HIV และอีโบลาในภูมิภาคทะเลทรายซาฮารา เขาเขียนไดอารี่ “บันทึกจากห้องผู้ป่วย และเผยแพร่ผ่านสำนักข่าว BBC เมื่อมีการอนุมัติใช้วัคซีนในช่วงแรก ๆ เขายังระมัดระวัง และปฏิเสธการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยความที่มันพึ่งถูกผลิตออกมาใช้ แต่สุดท้าย เขาเข้ารับการรักษาในห้อง ICU เป็นเวลา 9 วัน
เป็นครั้งแรกที่เขาต้องนอนค้างเพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาล นับตั้งแต่เดินทางกลับมาจากโมร็อกโกในปี 1986 “ผมโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่ ภรรยาของผมยอมรับการฉีดวัคซีน แต่ผมปฏิเสธ ผมไม่เต็มใจ ผมอยากให้เวลากับตัวเอง และคิดว่าผมใช้ชีวิตอยู่กับไวรัส แบคทีเรียมาแล้วค่อนชีวิต ผมยังคิดว่าระบบภูมิคุ้มกันของผมดีพอ ศ.นพ. จอห์นกล่าว ตอนนั้นเขาคิดว่า หากเขาติดเชื้อ เขาจะมีอาการป่วยจากโควิดเพียงเล็กน้อย อย่างที่เคยเป็นในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ เขายังคิดว่าระบบภูมิคุ้มกันของเขาจะตรวจพบไวรัส และสร้างการป้องกันขึ้นมาได้ ซึ่งปรากฎว่าเขาคิดผิด นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม มันเกือบทำให้ผมตาย ผมตัดสินใจผิด ๆ มาหลายครั้งในชีวิต แต่นี่เป็นครั้งที่อันตรายและรุนแรงที่สุด
ผลร้ายของข่าวปลอม อับเดอร์ราห์มาเน ฟาดิล ครูวิทยาศาสตร์วัย 60 ปีที่มีลูก 2 คน ก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน, เขาออกจากโรงพยาบาลเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังรู้สึกฟื้นตัวไม่ค่อยสมบูรณ์ "ผมหวังว่าจะได้ไปหาทุกคนที่ปฏิเสธการรับวัคซีน และบอกพวกเขาว่า นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย คุณอยากจะอยู่หรือตาย ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอยู่ ก็ไปรับวัคซีน” ผลร้ายแรงของข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด-19 และวัคซีน
ส่งผลให้มีคนจำนวนมากในสหราชอาณาจักรปฏิเสธการฉีดวัคซีน ต้องไปรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการป่วยรุนแรงเพราะโควิด ไฟซาล ผู้ซึ่งออกจากโรงพยาบาลมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ ยอมรับว่าได้รับอิทธิพลจากการสนทนาบนโซเชียลมีเดีย และความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนในชุมชนชาวเอเชีย รวมถึงรายงานข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดจากวัคซีน AstraZeneca ซึ่งมีน้อยมาก ปัจจุบัน ประมาณสามในสี่ของประชากรผู้ใหญ่ในเมืองแบรดฟอร์ด พึ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก ซึ่งค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับทั่วประเทศที่มีผู้ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสราว 87%
อย่าประมาท การ์ดอย่าตก ศ.นพ. จอห์น เสริมว่า แม้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ก็ยังมีบางส่วนและจำนวนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ดังนั้น การแข่งขันระหว่างฉีดวัคซีนและการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ยังคงมีบทบาทสำคัญมาก และสำหรับบทเรียนจากปีที่แล้ว ก็คืออย่าประมาทไวรัสนี้เด็ดขาด
เรื่อง นราธร เนตรากูล ภาพ: Reuters