จากกรณี บังซา อาสากู้ภัยฯ ที่ติดCV19และพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนามบุษราคัม แต่ก็ยังปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ป่วยCV19 ภายในโรงพยาบาลสนามบุษราคัม พร้อมกับได้ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก เหนือ หนึ่ง ห้า เปิดเผยสภาพภายในของ รพ.สนาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาดของห้องน้ำ

ล่าสุด บังซายังได้มีการเปิดเผยภาพเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีช่วยกันเข็นรถผู้ เ สี ย ชี วิ ต จากการ ติด โ ค วิ ด ออกจากพื้นที่ รพ.สนาม โดยที่มีเพียงชุดป้องกันหรือชุด PPE อยู่เพียงไม่กี่ชุดเท่านั้น

ซึ่งวันนี้ (29 ก.ค.) บังซา ได้เปิดใจกรณีถูกห้ามไม่ให้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสาภายใน รพ.สนามบุษราคัม แล้ว พร้อมให้เชิญออกจาก รพ. ทันที จนโลกโซเชียลพร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #Saveบังซา ยืนยันว่าหลังออกจากโรงพยาบาลบุษราคัมขณะนี้ก็ยังไม่มีแพทย์หรือพย าบาลมาติดตามอาการป่วย โ ค วิ ด ของตน ทั้งที่ตนออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดถึง 2 วัน

โดยเมื่อมาถึงที่บ้านซึ่งเป็นห้องเช่าเพื่อนบ้านที่เช่าห้องอยู่ติดกัน ได้เอาแผ่นไม้มาปิดกั้นระหว่างห้องซึ่งตนก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้รังเกียจ แต่เขาก็ต้องป้องกันเพราะเขารู้ว่า ตนออกมาจากโรงพย าบาลก่อนกำหนด จึงทำให้เขากลัวว่าตนยังมี เ ชื้ อ โ ค วิ ด และจะไปแพร่ เ ชื้ อ โ ค วิ ด ให้เขาได้หรือไม่

บังซา ยอมรับว่ากังวลใจ เพราะแม้แต่ตนเองยังไม่รู้ว่ายังมี เ ชื้ อ โ ค วิ ด อยู่หรือไม่ ที่สำคัญไม่รู้ว่าเมื่อหลังจากหายดีแล้วจะกลับไปขายไก่ย่างได้เหมือนเดิมหรือไม่ และจะมีคนกล้ามาซื้อไหมเพราะกลัวคนไม่เข้าใจ

ยืนยันว่าเหตุผลที่ตนต้องออกจากโรงพยาบาลบุษราคัมก่อนกำหนด เพราะไปไลฟ์พูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เคยมีผู้ ป่ ว ย โ ค วิ ด ที่ถึงกำหนดจะได้ออกจากโรงพยาบาล แต่สามารถอยู่ต่อที่โรงพยาบาลได้อีกอย่างน้อย 2-3 วัน

ขณะที่ภรรยาของตนซึ่งติด เ ชื้ อ โ ค วิ ด และเข้ารักษาตัวพร้อมกันกับตน หมอได้ให้ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 25 ก.ค. เพราะอาการดีขึ้น แต่ภรรยาก็ได้ขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 2 ส.ค. เพราะอยู่ที่โรงพยาบาลแฟนก็เป็นเหมือน จิต อาสาคอยช่วยเหลือผู้ ป่ ว ย ที่รักษาอยู่ที่นั่น

ซึ่งทางโรงพย าบาลก็อนุญาต แต่พอหลังจากที่ตนไลฟ์ไปแล้วทั้งภรรยาและลูกสาววัย 9 ขวบ ก็ถูกให้ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับตนทันที ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ และรู้สึกชื่นชมที่คนเหล่านี้ไม่ได้ ห ว า ด ก ลั ว ที่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็น

ชมคลิปคลิก

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก EasyYukhon