การปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

การปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

9 ก.ค.64 - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน ถึง 30 กันยายน 2564 นอกจากนี้ ยังเห็นชอบคุมเข้มใน 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา อาทิ ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 -04.00 น. เป็น ระยะเวลา 14 วัน

ให้ทุกกิจการปิดดำเนินการ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ในเวลา 20.00 น. งดระบบรถขนส่งสาธารณะ ตั้งแต่ 21.30-04.00 น. จำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด ยกเว้นการขนส่งสินค้าหรือมีเหตุจำเป็น กรณีต้องเดินทางไปทำงาน ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม การไปโรงพยาบาล ขอความร่วมมือ WFH 100% รวมถึงห้ามรวมตัวเกิน 5 คน

เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ 10 จังหวัด 3 ทุ่มถึงตี 4 ห้ามออกจากบ้าน เริ่มวันที่ 12 กรกฏาคม

การปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

1 จำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด (เฉพาะกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล)

-กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนใช้การปฏิบัติงานในลักษณะ Work From Home ให้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่สำคัญ และการบริการประชาชน

-ระบบขนส่งสาธารณะ ปิดให้บริการได้ในห้วงเวลา 21.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

-ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา 20.00 ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

-ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

-ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้าน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

- ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น.

-ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรม ตามประเพณี ที่มีการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

-สถานศึกษาใช้การเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

2.ให้บุคคลงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นยิ่ง หรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี

3. การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค.ที่ได้มีประกาศ ไปแล้วก่อนหน้านี้

4. กำกับดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (DMHTTA) อย่างสูงสุด

5. ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ1-4 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.64 เป็นต้นไป และให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ระดับ สถานการณ์ต่าง ๆ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24, 25, 26) มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้

6. ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยให้พร้อม ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2564 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้กรณีตรวจพบผู้ฝ่าฝืนให้บังคับใช้บทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

7.สถานศึกษาใช้การเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับมติที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ศบค. ครั้งนี้ จะบังคับใช้ 14 วัน โดยข้อกำหนดต่าง ๆ จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ